ล่าสุด นายยงยุทธ เปิดเผยว่า อยากให้สังคมเข้าใจตนเองว่า หลังพายุเข้าคืนวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นผู้ใหญ่บ้านออกสำรวจความเสียหาย แล้วมาบอกให้ตนไปรับถุงยังชีพ เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จะมอบของให้ ตอนแรกตนตั้งใจจะให้หลานชายไปรับ แต่เนื่องจากหลานชายติดรับจ้างไถนา ตนจึงไปรับถุงยังชีพด้วยตัวเองที่หอประชุมอำเภอหนองหาน พอเข้าห้องประชุมก็พบกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวหนึ่ง เข้ามาสัมภาษณ์ว่ามารับถุงยังชีพ ตนก็บอกไปว่าบ้านของตนก็ถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย จึงมารับถุงยังชีพตามที่ผู้ใหญ่บ้านเรียกมา และตนได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าอยากจะขอความกรุณาอย่าลงข่าวให้ตนเสียหาย เพราะถุงยังชีพที่ตนได้รับจะนำไปมอบให้กับน้าชายที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อไปว่า ต่อมา นายยงยุทธ ได้พาผู้สื่อข่าวไปพบกับน้าชายที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เพื่อยืนยันว่าเอาถุงยังชีพมาให้น้าชายจริงๆ พร้อมวอนขอความเป็นใจจากสังคม ส่วนเรื่องการซ่อมบ้านตนคงไม่ให้ทางราชการมาซ่อมแซม เพราะยังมีเงินเหลือจากการถูกสลากกินแบ่งอีกประมาณ 22 ล้านบาท พร้อมกันนี้ นายยงยุทธ ยังได้โชว์ถุงเงินจำนวน 2 แสนบาท ที่เพิ่งเบิกมาโดยระบุว่าเป็นค่าจ้างทนายความให้ดำเนินการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวให้ตนเองเสียหาย โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.)
ด้าน นายโชคชัย วัฒนกุล นายอำเภอหนองหาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า วันนี้เวลา 10.00 น. นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเหล่ากาชาด ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบภัย ส่วนกรณีนายยงยุทธ ที่ไปรับมอบถุงยังชีพจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในวันนี้ถือว่าไม่ผิด เป็นการใช้สิทธิเพราะบ้านเขาประสบภัยพายุจริงๆ แม้จะรวยจะจน หากประสบภัยพายุก็สามารถรับถุงยังชีพได้ ส่วนเขาจะไปมอบให้ใครก็เป็นเรื่องของคนๆ นั้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
