กลุ่มเสี่ยงก่อนติดเชื้อ!!หมอแนะแนะนำวิธีใช้”พัดลมไอน้ำ”

กรณีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ประกาศงดใช้พัดลมไอน้ำในหอพักผู้ป่วย เนื่องจากมีการทบทวนผลงานวิจัย และพบว่าพัดลมไอน้ำเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ส่งผลให้มีการแชร์หนังสือประกาศดังกล่าวออกไปในโซเชียล สร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่บรรดาญาติๆ ผู้ป่วยและผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อเป็นอย่างมาก ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น 

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 พ.ค. พญ.พาริชา เชาวลิต แพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินหายใจ และภาวะวิกฤต โรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ เปิดเผยกับทางเดลินิวส์ออนไลน์ว่า เชื้อไวรัส และแบคทีเรียหลายชนิดที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจสามารถพบได้ในพัดลมไอน้ำ ไอเย็น โดยอาศัยอยู่ในน้ำจะทนต่อสภาพอุณหภูมิที่ต่ำ สามารถแพร่กระจายไปได้ไกลตามกระแสลมจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ภาวะปอดอักเสบ และกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ ได้แก่ ผู้สูงอายุภูมิคุ้มกันบกพร่อง และกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โดยเชื้อต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในถังเก็บน้ำของพัดลมไอน้ำ หรือน้ำที่ไม่สะอาดจะมีทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราถ้าจับอยู่ในตัวพัดลมไอน้ำก็สามารถที่จะพ่นออกมาได้ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียมีโมเลกุลเล็กสามารถกระจายไปได้ไกล จึงสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจของเราได้ 

โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหอบหืด หรือผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ไม่เหมาะสมกับการอยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะโมเลกุลของสิ่งสกปรกที่มากับตัวละอองน้ำมีหลายตัว ที่สำคัญมีน้ำหนักเบา จึงเข้าสู่ระบบทางเดินได้ง่ายมาก ดังนั้นหากใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่มีการติดตั้งใช้พัดลมไอน้ำ แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ส่วนบ้านใดที่ต้องการใช้พัดลมไอน้ำควรใช้ในสถานที่โล่งโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพราะการใช้ในบ้านเรือนหรืออาคารปิดจะค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างมาก