ถึงกำหนดปิดบ้านครูน้อยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ( 15 พ.ค.) นางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ครูน้อย เปิดใจยอมรับว่า ตนไม่สามารถแบกรับภาระหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายและค่าเทอมของเด็กในบ้านทั้ง 65คน พร้อมยอมรับปัญหาเกิดการบริหารจัดการของตนไม่ดีพอ โดยวันนี้ที่ยังมีความห่วยใย คือเป็นห่วงเด็ก อยากให้คนที่มีเมตตารับไปดูแล
อย่างไรก็ตามต้องขอแก้ข่าวที่ว่าตนนำเงินไปซื้อรถป้ายแดงให้ลูก นำไปซื้อที่ดิน ซึ่งไม่เป็นความจริง ปัญหาวันนี้มาจากการบริหารจัดการบ้านของครูน้อย ที่ไม่ได้ทำเป็นระบบ ก่อนหน้าเคยมีผู้แนะนำเรื่องการจัดการบัญชี แต่เลิกไปเพราะทำได้ไม่สะดวก เนื่องจากไม่คล่องตัว และจำนวนเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอ
โดยปัจจุบันตนไม่ได้อยู่เครือของพม. หรือกรมประชาสงเคราะห์ แต่อาศัยอยู่กับสามี ลูกก็มาอยู่ด้วยบ้างบางครั้ง ส่วนเด็กในความอุปการะ มีอยู่ 65 คน อายุ 3 ขวบครึ่ง - 17 ปี ค่าใช้จ่ายเดือนหนึ่งอย่างต่ำ 180,000 บาท รายได้บางส่วนมาจากการขายของที่เหลือใช้ นอกนั้นมาจากการกู้หนี้ในระบบ และนอกระบบ ซึ่งยอดบริจาคในแต่ละเดือนที่เคยได้รับสูงสุด 120,000 บาทนั้น ช่วงหลังก็ไม่ได้มีมากเช่นนั้นอีกแล้ว
ส่วนเด็กที่อยู่ที่นี่มีทั้งเด็กที่ประสบปัญหาครอบครัว เด็กกำพร้า และหลังจากที่มีการปิดบ้านแล้ว จากนี้ตนจะขายบ้านซึ่งติดจำนองกับธนาคารไว้ 1 ล้านกว่าบาท ก่อนไปอาศัยอยู่กับลูก และเป็นยายแก่เลี้ยงหมูเลี้ยงหมา กับลูกหลานไปจนกว่าจะตาย
ด้าน พล.ต.อ อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงชีวิต เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลังการปิดตัวของบ้านครูน้อย ว่าทางกระทรวงจะพิจารณารายละเอียดแนวทางการดูแลเด็กๆ ว่าสามารถให้การช่วยเหลือต่อไปได้อย่างไรบ้าง โดยจะเป็นการแยกตามความเหมาะสม ส่วเรื่องการช่วยเหลือเรื่องหนี้สินของครู คงจะให้มอบเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป ซึ่งจากบรรยากาศการพูดคุยเห็นว่าการยุติบทบาทของครูน้อยอาจส่งผลกระทบกับชุมชนบ้าง แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือด้วยดี นอกจากนี้ทางพม.ได้มีการมอบเงินให้ 35 ครอบครัว ครอบครัวละ 2,000 บาทเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น
ขณะที่ พล.ต.อ พงศพัศ พงศ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีของบ้านครูน้อนขณะนี้มีเพียง 400 บาท หลังจากนี้ต้องตรวจสอบขั้นตอนว่าหนี้สินที่มี 800,000 บาท มาจากเจ้าหนี้รายใดบ้าง ทั้งนี้จะมีการเชิญเจ้าหนี้ทั้งหมด 8 ราย มาพูดคุย เจรจา เพื่อหาตัวเลขยอดหนี้ที่ชัดเจน รวมทั้งตรวจสอบว่ายังมีหนี้อื่นๆ ที่อาจมีตกหล่นอีกหรือไม่ โดยเงินที่จะนำมาชดใช้ให้ครูน้อยนั้น ตนเองจะรวบรวมมาจากจิตศรัทธาของผู้ประสงค์ให้การช่วยเหลือ ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับเจ้าหนี้นอกระบบรายต่างๆ หรือไม่ ต้องรอการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้รายต่างๆ ก่อน อย่างไรก็ตามหนี้นอกระบบถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คำรวยก็มีการดำเนินการจับกุมมาโดยตลอด
สำหรับนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ครูน้อย วัย 74 ปีเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2486 สมรสกับ นายวิเชียร ทิมกุล มีบุตร 2 คน ประกอบด้วย 1.นายเชียนะนนท์ ทิมกุล 2.นายเชียระนาถ ทิมกุล จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนสมบูรณ์ปัญญาและเข้าอบรมผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลหญิง จนเคยเข้าไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลหญิง (โรงพยาบาลราชวิถี) และรับจ้างสอนหนังสือ สอนการบ้านเด็ก และยังเคยทำร้านข้าวแกงที่ปากซอยราษฎร์บูรณะ 26 ทั้งนี้ "ครูน้อย" เคยได้รับเครื่องราชย์ ปี 2551 เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ ในฐานะผู้ทำประโยชน์ด้านพัฒนาสังคม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Tnews Deep
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
