โดยนายมานูเอล กล่าว่าหลังนี้หากกลับถึงประเทศสเปน จะขอพักผ่อนกับคาร์เมน และครอบครัวและจะพา คาร์เมน พบพี่ชาย โดยที่สเปนตนเองได้เตรียมห้องสำหรับคาร์เมน ไว้ตั้งแต่ 13 เดือนแล้ว หลังจากต่อสู้มายาวนาน ซึ่งอนาคตมีแพลนที่จะพาคาร์เมน ไปเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ชาย ซึ่งตอนนี้เข้าชั้นอนุบาล อยู่ที่สเปน ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทยชอบอาหารไทยมาก แต่คิดถึงอาหารสเปนมากกว่า
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะเดินทางกลับประเทศสเปนเมื่อไหร่นายมานูเอล กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทราบเนื่องจากยังต้องมีการเซ็นเอกสาร ในคำพิพากษาอีก และเมื่อเสร็จสิ้นก็จะทำหนังสือเดินทางให้กับ คาร์เมน จึงจะสามารถกลับได้
หากแม่อุ้มบุญ ยื่นอุทรณ์ เพื่อขอลูกคืนจะทำอย่างไรนายมานูเอล กล่าวว่า หากแม่อุ้มบุญ จะยื่นอุทธรณ์ตัวเองจะต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่จะเห็นได้ว่าศาลได้มีคำสั่งออกมาชัดเจน ซึ่งแม่อุ้มบุญไม่มีสิทธิ์ ในตัวน้องคาร์เมน ซึ่งแม่อุ้มบุญยังสาว และมีลูกอยู่แล้วน่าจะปล่อยให้น้องคาร์เมน อยู่กับครอบครัวดีกว่า
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะสามารถพูดคุยกับแม่อุ้มบุญได้หรือไม่ คิดว่าคงไม่ได้แล้ว เนื่องจากตลอดระยะเวลาต่อสู้มา 15 เดือน เป็นช่วงที่ยากลำบาก และตัวเองใช้เงินเก็บที่มีจนหมดในการดำเนินการต่อสู้คดี ซึ่งวันที่ 23 พ.ค.ศาลนัดพบในคดีที่ฟ้องแม่อุ้มบุญ หมิ่นประมาท ตัวเองจะมาต่อสู้คดีอีกครั้งเนื่องจากได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และก่อนหน้านี้ตัวเองได้พยายามติดต่อขอร้องให้คืน คาร์เมน เนื่องจากย่า ที่สเปนเสียชีวิตและต้องไปร่วมงานศพ แต่แม่อุ้มบุญ ไม่แคร์ความรู้สึกของตนเองเลย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า หลังจากเกิดเหตุ ประเทศได้ออกกฏหมาย ทำอุ้มบุญผิดกฏหมายในไทย นายมานูเอล กล่าวว่าตนเองเคารพกฏหมายแต่หากมีการบริหารจัดการดีๆ เชื่อจะเป็นผลดีต่อบุคคลที่ต้องการมีบุตร
ด้านนายกอร์ดอนบัด เลค ที่เดินทางจากประเทศสเปนมาถึงในตอนหลัง กล่าวว่า ระยะเวลา 15 เดือน ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน เรียกว่าโหดร้ายที่สุดในชีวิตเรา แต่แน่นอนว่าคุ้มค่า เราไม่มีทางเลือกอื่น คาร์เมนเป็นลูกสาวของเรา และเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ วันนี้มีความสุขมากจะพาลูกสาวกลับไปหาครอบครัวที่รออยู่ที่ประเทศสเปน ขอบคุณคนไทย เรารักประเทศไทย และจะไม่ลืมคนไทย