ลูกเทพทรพีกลับมาแล้ว โผล่ทุบรถคันที่9 เหยื่อลั่นเกินทนแล้ว!!

ลูกเทพทรพีกลับมาแล้ว โผล่ทุบรถคันที่9 เหยื่อลั่นเกินทนแล้ว!!


จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าไปใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบที่บริเวณกระจกด้านหลังรถยนต์ ของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยคาดว่าคนร้ายคือ นายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี เป็นบุตรชายของ นางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ซึ่งเคยก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และผู้มาติดต่อราชการในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2559 มาแล้ว จำนวน 8 คัน

แต่ว่าได้มีการเจรจายอมความกันได้ โดยนางรุจิราภรณ์ แม่ของคนร้าย ได้ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถที่ถูกลูกชายของตนเองทุบรถทุกคัน เนื่องจากว่าคนร้ายแค้นที่ขอเงินแม่จำนวน 800,000 บาท เพื่อจะนำเอาไปซื้อรถ จยย.บิ๊กไบค์ แต่แม่ไม่ยอมให้เงินตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชี ชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยสามี ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ถูกทุบกระจกได้เดินทางไปแจ้งตวามร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งมีพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลยืนยันว่า นายกิติศักดิ์ เป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุทุบรถยนต์ของนางวัทรา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยได้ตั้งข้อหาว่า ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันจะได้มีการตรวจสอบว่านายกิติศักดิ์ ได้กระทำผิดในข้อหาว่ามีการละเมิดอำนาจศาลที่ได้มีคำสั่งว่าห้ามเข้าไปภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 หรือไม่อย่างไรเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นายกิติศักดิ์ ได้เคยก่อคดีทุบรถในบริเวณนี้มาแล้ว 8 ครั้ง และถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาละเมิดอำนาจศาล แต่ได้รับการประกันตัวออกมา

นางวัทรา แท่นสละ เจ้าของรถที่ถูกทุบกล่าวว่า  รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่ารถยนต์ของตนจะถูกทุบ ตนได้ปรึกษากับสามีแล้วว่าจะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ซึ่งทราบแล้วว่าคือ นายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ ลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน โดยตนจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุดและไม่หวั่นเกรงอิทธิพลว่าคนร้ายเป็นหลานของบิ๊กสีกากีคนหนึ่งแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้แม่ของคนร้ายได้เข้ามาพบกับตนเพื่อเจรจาค่าเสียหาย แต่ว่าตนไม่คุยด้วยเพราะต้องการดำเนินคดีกับคนร้ายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป เพราะตนเห็นว่าคนร้ายรายนี้มีการกระทำที่ไม่หวั่นเกรงกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด


ขอบคุณที่มา > > 77jowo

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์