1.การเลื่อนนัดครั้งที่ 1 เนื่องจากติดศาสนกิจโครงการอบรมและบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน 100,000 รูป ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 22 เมษายน 2559 และพิธีตักบาตรพระภิกษุสามเณร 100,000 รูป ในวันที่ 22 เมษายน 2559
2.กรณีเลื่อนนัดครั้งที่ 2 นี้ เป็นเพราะอาการอาพาธปรากฏตามใบรับรองแพทย์ จากคลินิกแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรองอาการป่วยถึง 4 ท่าน ประกอบด้วยนายแพทย์ชูชัย แพทย์ผู้ตรวจ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว และยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อีก 3 ท่าน ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฉุกเฉิน, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวินิจฉัย ลงความเห็นตรงกันในอาการป่วยของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ว่าให้งดภารกิจ 15 วัน ซึ่งหลวงพ่อธัมมชโย ก็ปฏิบัติตามวินิจฉัยของคณะแพทย์ทุกประการ
3.ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2559 เป็นต้นมา พระเทพญาณมหามุนี ไม่ได้ออกมาปฏิบัติศาสนกิจใดๆ เลย เนื่องจากอาการอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการปวดหลัง ปวดขาซ้ายเนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ประกอบกับมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและรุนแรงจากโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่โคนขาซ้าย มีแผลติดเชื้อที่เท้าเรื้อรัง ดังที่ยื่นต่อดีเอสไอ โดยมอบหมายให้พระสงฆ์ในวัด ออกเทศน์สอนและนำนั่งสมาธิแทนมาโดยตลอด จึงได้ทำหนังสือขอเลื่อนการมาพบดีเอสไอ
4.กรณีอาการป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ถูกต้อง ทางดีเอสไอใช้ดุลพินิจปฏิเสธการเลื่อนโดยไม่ตั้งอยู่บนพื้นทางความเป็นจริง เพราะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่รับผิดชอบคดีนี้ เคยพบเห็นอาการของหลวงพ่อธัมมชโย และรู้อยู่ว่าอาการป่วยของหลวงพ่อธัมมชโย ไม่สามารถเดินทางไปดีเอสไอได้อย่างแน่นอน การใช้ดุลพินิจของดีเอสไอครั้งนี้ เป็นการใช้กฎหมายละเมิดสิทธิของผู้ป่วยหรือไม่.