นร.ไทยคว้า1เหรียญทอง3เงินแข่งคณิตโอลิมปิก

เด็กไทยสร้างชื่อก้องโลกคว้า 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงในเวทีแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศที่เวียดนามนักเรียนหัวกะทิแนะเคล็ดลับตั้งใจเรียนในห้องเรียน ฟังอาจารย์สอน หมั่นทบทวนความรู้ รู้จักแบ่งเวลาเรียนกับพักผ่อน ชูการศึกษากับคุณธรรมต้องปลูกฝังไปพร้อมกัน

(29 ก.ค.)  ศ.ดร.สุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่าจากที่ประเทศไทยได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทย ไปแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ วันที่ 19 - 31  กรกฎาคม พ.ศ.2550  ณ  กรุงฮานอย  ประเทศเวียดนามนั้น 

ผลปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยสามารถทำได้      1  เหรียญทอง  3  เหรียญเงิน 2  เหรียญทองแดง  จากฝีมือของนายภานุพงศ์ ภาสุภัทร    โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  เหรียญทอง ,เด็กชายพศิน มนูรังษี       โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย    เหรียญเงิน  ,นายวิชญ์  ฮึงวัฒนากุล      โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา        เหรียญเงิน ,นายสุธี เรืองวิเศษ            โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม ) ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา           เหรียญเงิน , นายพชรพล สุเทพารักษ์  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา   เหรียญทองแดง ,นายวรัตถ์  สุขสมปอง      โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา    เหรียญทองแดง 

ทั้งนี้  มีประเทศเข้าร่วมแข่งขัน 93  ประเทศ จำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขัน 520 คน  คณะผู้แทนประเทศไทยประกอบด้วยหัวหน้าทีมผศ.ดร.ณัฐพันธ์ กิติสิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   รองหัวหน้าทีมรศ. ดร. อัจฉรา หาญชูวงศ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ผู้ช่วยหัวหน้าทีม ผศ.ดร. ไพศาล นาคมหาชลาสินธุ์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ผศ. ดร. อุษณีย์ ลีรวัฒน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ผู้จัดการทีมนางสาวรจนา รัตนานิคม สสวท.    ผู้แทนประเทศไทยทุกคนจะได้รับทุนไปศึกษาต่างประเทศระดับปริญญาตรีถึงหลังปริญญาเอกในสาขาวิชาที่ตนเองเข้าร่วมการแข่งขัน  เพื่อกลับมาทำงานพัฒนาประเทศในอนาคต 

นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร หรือไอซ์ วัย 16 ปี กล่าวว่า คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สอนให้เราคิด วิเคราะห์ และใช้เหตุผล เป็นวิชาที่ท้าทายให้เข้าไปพิสูจน์ความจริงที่โจทย์ต้องการ  วิชาที่ชอบที่สุดคือเรขาคณิต   เบื้องหลังความสำเร็จมีคุณพ่อคุณแม่คอยผลักดันส่งเสริมให้เรียนวิชาที่ชอบ ช่วยเหลือเวลาที่มีปัญหา และเป็นกำลังใจเสมอ

"วิธีเรียนให้ได้ผลคือฟังที่อาจารย์สอน แล้วทบทวนสิ่งที่เรียนไปแล้ว แบ่งเวลาเรียนและเวลาพักให้เหมาะสม  ฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์มากๆ เพราะหนึ่งโจทย์คือหนึ่งเทคนิคใหม่  ปรึกษาผู้รู้ถ้าไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้    ก่อนไปแข่งขันไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แต่มีความมั่นใจ 90%  ซึ่งผลแข่งขันไม่ได้ชี้ชะตาชีวิตแต่เป็นรางวัลความตั้งใจของเรา  อยากให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา ควบคู่ไปกับคุณธรรม และหมั่นศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นอนาคตประเทศชาติ"นายภานุพงศ์ กล่าว 

เด็กชายพศิน มนูรังษี หรือ น้องกันต์  ผู้แทนประเทศไทยที่อายุน้อยที่สุดของปีนี้ด้วยวัยเพียง 13 ปี  กล่าวว่า  ตั้งใจทำอย่างดีที่สุดซึ่งไม่ว่าจะได้รางวัลอะไรกลับมาก็ภาคภูมิใจเต็มที่  สำหรับตัวเองชอบและถนัดอสมการมากที่สุด  เนื่องจากเป็นวิชาที่ไม่ได้ใช้ความรู้หรือทฤษฎีบทมากมายแต่มีโจทย์ที่พิสูจน์ได้อย่างสวยงาม  

"วิธีเรียนดีคือเรียนด้วยใจรัก เมื่อรู้สึกเบื่อหรือท้อก็หากิจกรรมอื่นมาทดแทน อย่าเรียนด้วยความกดดัน  มีวิธีคลายเครียดด้วยการอ่านหนังสือการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวน  ทุกคนมีโอกาสที่จะเรียนรู้ ขอให้พยายาม ตั้งใจจนสุดความสามารถ ดีกว่าที่จะพลาดโอกาสเพราะเราไม่มีความพยายามพอ" เด็กชายพศิน กล่าว 

นายวิชญ์   ฮึงวัฒนากุล  กล่าวว่า  ครอบครัวมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรียนดี  ถ้าครอบครัวอบอุ่นดูแลลูกดีปลูกฝังให้มีคุณธรรมแล้ว ลูกจะตั้งใจเรียนเป็นคนดีและทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ   ครอบครัวของตนส่งเสริมด้านคุณธรรมจริยธรรมและการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล   

"การพัฒนาบุคลากรด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะปัจจุบันประเทศเราขาดแคลนบุคลากรด้านนี้ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ให้คนรุ่นใหม่ซึ่งจะต้องก้าวขึ้นมาบริหารประเทศต่อไป   ที่สำคัญอีกด้านคือการพัฒนาคุณธรรมที่จะทำให้คนเหล่านี้ไม่นำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด     และขอขอบคุณคุณครูทุกท่าน โรงเรียน และสสวท.ที่ให้ตนได้มีโอกาสดีๆ"นายวิชญ์ กล่าว 

นายสุธี เรืองวิเศษ หรือทีม วัย 15 ปี กล่าวว่า  เป็นครั้งแรกที่ได้ไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ  ถ้าได้เหรียญรางวัลก็ถือว่ากำไรแล้ว  ซึ่งได้พยายามเต็มที่และทำให้ดีที่สุด   สำหรับเยาวชนไทยที่อยากประสบความสำเร็จ ก็ขอให้ค้นหาด้านที่ตัวเองสนใจ แล้วมุ่งมั่นไปในด้านนั้นอย่างเต็มที่และมีความพยายาม ก็จะประสบความสำเร็จได้     เวลาว่างจะดูโทรทัศน์  เล่นกีฬาเช่น ปิงปอง ฟุตบอล อ่านหนังสือคณิตศาสตร์กับการ์ตูนและหนังสือเกมปริศนาต่าง ๆ 

นายพชรพล สุเทพารักษ์  หรือหนึ่ง วัย 15 ปี กล่าวว่า  ไปแข่งครั้งนี้กดดันพอสมควรแต่ไม่พยายามทำตัวเองให้เครียด  ก่อนไปได้ฝึกทำโจทย์ และฝึกสมาธิ    ชอบเรียนคณิตศาสตร์โดยเฉพาะเรขาคณิต เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยเหตุและผล ไม่ต้องท่องจำมาก อาศัยเพียงการวิเคราะห์โจทย์เท่านั้น  ครอบครัวมีส่วนสนับสนุนอย่างมากโดยคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมอย่างเต็มที่ 

"เมื่อรู้ว่าชอบและมีความสามารถทางคณิตศาสตร์ก็หาหนังสือหรือโจทย์มาให้ฝึกทำ หรือแม้กระทั่งหาสนามสอบให้ผมทดสอบฝีมืออยู่เสมอ    เคล็ดลับการเรียนดีคือตั้งใจเรียนในห้องให้มากที่สุด พยายามเข้าใจเนื้อหาให้ได้ในห้องเพื่อว่าเมื่อเลิกเรียนจะได้มีเวลาว่างเป็นส่วนตัว และขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมด้วย"นายพชรพล กล่าว

นายวรัตถ์ สุขสมปอง  หรือจุ่ง วัย 16 ปี กล่าวว่า  ที่เข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการเพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมความสามารถในด้านที่สนใจ ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ และยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ในการเข้าค่ายโอลิมปิกฯทำให้ได้พบกับโจทย์ในระดับยากที่ต้องใช้ความคิดอย่างมาก และใช้เวลานานในการทำ  ฝึกให้อดทนไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ มีความเชื่อมั่นในตนเอง  และได้พบกับเพื่อนที่สนใจด้านเดียวกัน

คณะผู้แทนประเทศไทยคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันอังคารที่ 31 กรกฏาคม 2550 เวลา 22.35 น. ด้วยเที่ยวบิน TG 685    สสวท.จะมีพิธีต้อนรับคณะผู้แทน  ณ สนามบินสุวรรณภูมิ