จากเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญคนไปทั้งโลกเมื่อเครื่องบินของอียิปต์แอร์ เที่ยวบิน MS181 ถูกจี้จากอเล็กซานเดรียไปสู่ไคโร แล้วสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางไปไซปรัส ทราบชื่อต่อมาคือ "เซอิฟ เอลดิน มุสตาฟา" ชาวอียิปต์ได้ทำการจี้เครื่องบินลำนั้น ที่มีคนอยู่บนเครื่องทั้งหมด 62 ชีวิต หลังจากเครื่องบินเดินทางออกจากอเล็กซานเดรียได้ไม่นาน เพื่อเดินทางสู่ไคโร ด้วยการอ้างว่าสวมใส่เข็มขัดระเบิด เขาได้สั่งให้เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางไปยังไซปรัส ซึ่งที่นั่นเขาได้จับผู้โดยสารและลูกเรือหลายคนเป็นตัวประกัน แล้วก็เรียกร้องอยากจะเจอเมียเก่าของเขา เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์รายหนึ่ง ได้ระบุว่า มุสตาฟาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เขาเป็นแค่คนโง่ พวกผู้ก่อการร้ายมันบ้าแต่ไม่โง่ ส่วนนายคนนี้โง่บรมเลย
ต่อมาก็ได้มีภาพของชายคนหนึ่งชื่อว่า เบน อินเนส ชายชาวอังกฤษวัย 26 ปี คือหนึ่งใน 3 ผู้โดยสารกับ 4 ลูกเรือที่ตกเป็นตัวประกัน ได้ถ่ายรูปคู่กับผู้ก่อเหตุ เขาได้บอกกับ"เดอะ ซัน" เกี่ยวกับแรงจูงใจให้ทำเช่นนั้นว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมทำแบบนั้น ว่าพยายามทำตัวร่าเริงในการเผชิญกับคราวเคราะห์ เขาคิดว่าถ้าระเบิดนั่นเป็นของจริง เขาก็คงไม่มีอะไรจะเสีย ก็เลยอยากจะใช้โอกาสนั้นเข้าไปดูใกล้ๆ
"หลังจากครึ่งชั่วโมงที่ลาร์นากา ผมขอถ่ายรูปกับเขาตอนที่เรากำลังนั่งรอ ตอนนั้นผมคิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ หากเขาจะระเบิดเราทิ้งทั้งหมด แค่ถ่ายรูปมันก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร"เขาอยู่ในกลุ่มผู้โดยสารชุดสุดท้ายที่ถูกมุสตาฟาปล่อยตัว หลังจากที่โจรจี้เครื่องบินรายนี้ได้ปล่อยคนอื่นไปเกือบหมดแล้ว อินเนสก็เกิดสงสัยว่าเข็มขัดระเบิดของมุสตาฟานั้นอาจจะเป็นของปลอม เขาบอกว่าตอนนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจกลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้ววางแผนว่าควรจะทำอะไรต่อไป ในเวลาต่อมาเขากับตัวประกันที่เหลือก็ได้รับการปล่อยตัว
การกระทำของเขาถูกตำหนิโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง แต่ญาติๆ พากันชื่นชม ส่วนเพื่อนๆ ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่านั่นล่ะคือตัวตนของอินเนส