กาง'ก.ม.จราจร'แย้งตำรวจ 'กักตัวตรวจสารเสพติดได้'
กรณีอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ รถเบนซ์ ซีแอลเอส สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร ซิ่งชนเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า สีเทาดำทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพมหานครจนไฟลุกท่วม ย่างสดจนมีผู้เสียชีวิตคือ นายกฤษณะ หรือ โต้ง ถาวร อายุ 32 ปี กับ น.ส.ธันฐภัทร์ หรือ เบนซ์ ฮ้อแสงชัย ซึ่งทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิตสยดสยอง บนถนนพหลโยธินขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 52-53 ใต้ต่างระดับบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังในสังคมออนไลน์มีการตั้งคำถามกับตำรวจว่า เพราะเหตุใดถึงไม่ดำเนินการตามกฎหมายในทันที โดยเฉพาะการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของเสี่ยรถเบนซ์ผู้ขับขี่รถโดยประมาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า "อดไม่ได้ที่เขียนถึงข่าวร้อนเรื่องนี้ ยิ่งใครฟังบทสัมภาษณ์รายการสดของช่องเนชั่น ที่คุณกนก (รัตน์วงศ์สกุล) สอบถามเรื่องทำไมไม่ตรวจสารเสพติดผู้ต้องหา แล้วทางตำรวจแจ้งว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะไม่ให้ตรวจ ผมจึงไปค้นกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการตรวจสารเสพติดขณะขับขี่รถยนต์มา ซึ่งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
พร้อมกันนั้น ในวรรคสาม ยังให้อำนาจตำรวจในการกักตัวไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าผู้ต้องสงสัยจะยอมให้ตรวจสารเสพติดได้ "ในกรณีที่ผู้ขับขี่ตามวรรคสองไม่ยอมให้ตรวจสอบ ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ตรวจการมีอำนาจกักตัวผู้นั้นไว้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบได้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นแห่งกรณีเพื่อให้การตรวจสอบเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว และเมื่อผู้นั้นยอมรับการตรวจสอบแล้ว หากผลการตรวจสอบในเบื้องต้นปรากฏว่าไม่ได้เสพ ก็ให้ปล่อยตัวไปทันที"
คือผมฟังที่สัมภาษณ์สดแล้วงงว่า อะไรครับคือสิทธิของผู้ต้องหาที่จะไม่ให้ตำรวจตรวจว่าเสพยามาขับรถหรือเปล่า
ก็ในเมื่อตามกฎหมายท่านก็มีอำนาจกักตัวไว้ตรวจนี่"“
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
