โดยทางวัดไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพยังตึกมงคลเทพมุนี อนุญาตให้เพียงรถของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปภายในเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนนั้นต้องรออยู่ตรงทางเข้าตึกมงคลเทพมุณี
ส่วนประเด็นการพูดคุยกำหนดกรอบการสอบปากคำ สมเด็จช่วง นั้น นายสมศักดิ์ โตรักษา หัวหน้าทีมกฎหมายวัดปากน้ำ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่พนักงานสอบสวนของดีเอสไอเข้าพบสมเด็จช่วง ซึ่งการเข้าพบวันนี้สมเด็จช่วงเข้าพูดคุยกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน โดยได้หารือในการกำหนดกรอบประเด็นคำถามที่ทางดีเอสไอจะสอบปากคำ ซึ่งดีเอสไอจะตั้งคำถามเป็นรายประเด็นไป
โดยประเด็นคำถามหลักจะเน้นไปที่เช็คและเงินบริจาคเป็นหลัก ซึ่งในประเด็นนี้สมเด็จช่วงสามารถชี้แจงได้หมด นอกจากนี้ จะมีประเด็นการลงนามทะเบียนรถ เอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับตัวรถ และการจดประกอบ อุปกรณ์การจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งในส่วนการจัดซื้อจัดจ้างสมเด็จช่วงอาจจะไม่ทราบในรายละเอียด โดยดีเอสไอจะต้องกำหนดประเด็นคำถามที่สมเด็จช่วงสามารถชี้แจง และให้คำตอบได้ ส่วนประเด็นการนำรถเข้าพิพิธภัณฑ์นั้น นายสมศักดิ์ เชื่อว่า ดีเอสไอมีหลักฐานที่เพียงพอแล้ว
ทั้งนี้ ทางสมเด็จช่วง จะตอบข้อซักถามเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มีบางส่วนที่ทางพนักงานสอบสวนต้องการถ้อยคำจากสมเด็จช่วง ซึ่งทาง สมเด็จช่วง ก็ยินดีให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน และอยากให้คดีนี้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จะได้หายเคลือบแคลงสงสัย และเอาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะต้องรอผลสรุปประเด็นคำถามจากทางดีเอสไอ ก่อนที่ทางสมเด็จช่วงจะให้ข้อมูลกลับไปภายใน 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเข้าพูดคุยในวันนี้ ดีเอสไอไม่ได้เข้าพบสมเด็จช่วงเพียงลำพัง แต่มีทีมทนายและพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 5 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เข้ารับฟังและปรึกษาหารือด้วย