เมื่อถามว่าหมายความว่าการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่การต้องรอให้คดีความต่างๆเรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ควรจะเป็นอย่างนั้นไหมละ ก็เหมือนกับการตั้งทหาร ตำรวจ ถ้าตั้งคนที่ไม่ได้รับความเห็นชอบร่วมกัน มีคดีความก็ตั้งไม่ได้ ยังไงก็ตั้งไม่ได้ ไม่ใช่ว่าคนนี้จะถูกปลดอยู่แล้วเลยต้องตั้งตามนั้น ไม่ใช่ เพราะต้องตรวจสอบว่ามันใช่หรือไม่ใช่ วันนี้ทุกกระทรวงเสนอคนเข้ามาผมยังตรวจสอบเลย ถ้าผมเช็คแล้วคนนี้เป็นอย่างนี้ก็ส่งกลับไป มันตั้งให้ไม่ได้ เขาต้องไปเคลียร์ตัวเขามาสิ ผมยังไม่ได้ว่าใครผิดใครถูกทั้งสิ้น เป็นเรื่องของกฎหมาย กฎหมายเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกตัดสินกันเอง ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ไปกันใหญ่ ก็ไม่จบสักเรื่อง หลายคนบอกว่าบ้านเมืองสงบแล้ว แล้วสงบหรือยัง คิดว่าจะแก้กันเมื่อไหร่ รัฐบาลหน้าทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะทุกวันนี้ทุกคนเอามาตีกันหมดทั้งการเมือง ประชามติ รัฐธรรมนูญ อนาคต ปฏิรูป การศึกษา มันได้ไหมเล่า มันเกิดมากี่ปีแล้ว ปัญหาหลายปัญหา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า "เห็นมีข่าวเผยแพร่ว่าผมเป็นอิสลามไปแล้ว ซึ่งวันนั้นชาวมุสลิมได้เอาหมวกแต่งงานมาให้ผมใส่ ผมก็ใส่ แล้วมีคนบอกว่าผมเป็นอิสลามไปแล้ว ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับผมหน่อย นอกจากนี้ภรรยาผมไปเปิดการประชุมอาเซียนที่มาเลเซีย มีคนเอาภาพในห้องประชุมใหญ่ไปโพต์ส ซึ่งถ่ายรูปติดกับมุมอิสลาม เลยหาว่าภรรยาเป็นมุสลิมไปด้วย นี่ผมไว้พระอยู่ทุกวัน แล้วมาบอกว่าลูกผมแต่งกันกับอะไรก็ไม่รู้ แต่สรูปแล้ว ทั้งผม ภรรยา ลูก เป็นมุสลิมไปหมด ก็คิดแบบนี้ แล้วจะเชื่อเขาหรือ ท่านต้องแก้ให้ผม ผมห้อยพระเต็มคออยู่นี่"