25 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าจากการตรวจสอบกล้องซีซีทีวีพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยขับอยู่ช่องเลนที่ 2 และขับส่ายไป-มาตลอดทาง จากนั้น ได้เร่งความเร็วแซงรถที่อยู่ด้านหน้าเข้าเลนที่ 3 แต่แซงไม่พ้น รถไปชนขอบแบริเออร์ด้านขวาจนรถเสียหลักไปชนขอบแบริเออร์ด้านซ้ายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
และจากการตรวจสอบภายในรถยนต์พบขวดสุราวางอยู่ข้างที่นั่งฝั่งคนขับ ซึ่งคาดว่าขณะขับรถ น.ส.ฐิติทิพย์ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย แต่ น.ส.ฐิติทิพย์มีการดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนหรือไม่นั้นยังคงต้องรอผลตรวจเลือดจากห้องแล็บนิติเวชอักครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องทำการสอบสวนนายภาคภูมิ ผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม รวมถึงต้องรอผลตรวจสอบรถยนต์และบริเวณที่เกิดเหตุจากทางผู้เชี่ยวชาญรถยนต์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป