อย่างไรก็ตาม หากกล่าวถึงเรื่องความขัดแย้งหรือการทะเลาะของสงฆ์มีมาแต่สมัยพุทธกาลจึงไม่อยากให้ประชาชนคิดว่าบ้านเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แต่อยู่ที่สื่อเลือกนำเสนอภาพซ้ำหลายรอบ และนำภาพที่ค่อนข้างรุนแรง (ฮาร์ดคอร์) พระล็อคคอทหาร ไม่เคยมีมาก่อนจึงทำให้เกิดความตระหนกต่อการรับรู้ ตราบใดที่ยังไม่มีการปฏิรูป ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ต้องช่วงชิงกันแบบนี้ ไม่เฉพาะทางศาสนา แต่รวมไปถึงการบ้านการเมืองด้วย
พระพยอมย้ำว่า อยากขอให้เรื่องนี้หยุดเร็วๆ สำคัญอยู่ที่รัฐบาลต้องตั้งสติเป็นกลางที่สุด อย่าเอียงหรือเข้าข้างข้างใดข้างหนึ่ง และไปซ้ำอีกข้าง จะกลายเป็นชนวนนำไปสู่ความรุนแรง อยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลรอบคอบ ต้องเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาพูดคุยกันและบันทึกคำพูด ข้อตกลงให้ดีและต้องชี้แจงประชาชนว่าที่ตัดสินใจแบบนี้เพื่อรักษาผล ประโยชน์และความสงบสุขของบ้านเมืองไว้ จะเป็นทางออกที่ทำให้เรื่องระงับเร็วขึ้นหรือรัฐบาลควรหาปราชญ์ทางศาสนา เอาทั้งที่นิ่มนวล และฮาร์ดคอร์ มาช่วยกันหาทางออก
"ที่พูดมาไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน หรือขัดแย้งใคร แต่มองว่าถ้ามีสังฆราชกับความสงบสุข ให้เราเลือกจะเลือกอะไร แต่ถ้ามีสังฆราชและความสงบด้วย ก็ดี แต่ถ้ามีแล้วไม่สงบรอหน่อยไม่ได้เชียวหรือ พระพุทธเจ้าทรงตำหนิความรุนแรง แต่ให้เป็นพระที่สุขุม นุ่มลึก เยือกเย็น ก็จะได้แต้มได้คะแนนทุกฝ่าย ถึงตั้งสังฆราชไม่ได้ก็จะได้ใจประชาชน ฝ่ายที่คัดค้านถึงมีการตั้งสังฆราช ก็ชนะได้หากเยือกเย็น ยืนยันตัวอาตมาเป็นกลาง อย่ามาชวนไปเป็นแกนนำเพราะอยากเป็นพระไม่ได้อยากเป็นไก่ชน"