พิษค่าบาทท็อปสั่งลดคนงาน นายจ้างชี้อนาคตไทยศิลป์วันนี้

บาทแข็งพ่นพิษ“ท็อป” 100 สาขากระเทือน
 
สั่งหั่นพนักงานทั่วประเทศสาขาละ 8 คน ด้าน“อภัย”ชี้เหตุ“รามาชูส์”ส่อเจ๊งเพราะไนกี้ลดออเดอร์ขณะบ.ไทยศิลป์นายจ้างนัดลูกจ้างถกอนาคตวันนี้


(19กค.) นายอภัย จันทนจุลกะ รมว.แรงงาน กล่าวถึง

ความคืบหน้าการติดตามปัญหาการเลิกจ้างของบริษัทรามาชูส์ อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งประกอบกิจการ รับจ้างผลิตรองเท่ายี่ห้อไนกี้และผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก 6 บริษัท จำนวน 6,985 คน ว่า ได้สั่งให้สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรีเข้าไปตรวจสอบพบว่าเบื้องต้นมีการลดจำนวนการผลิตจาก 100 เปอร์เซนต์ เหลือ 68 เปอร์เซนต์ ซึ่งอาจมีผลทำให้มีการเลิกจ้าง ลูกจ้างบางส่วน
 
สำหรับสาเหตุยังไม่มีการยืนยันว่า

จากค่าเงินแข็งตัวหรือการย้ายฐานผลิต แต่เนื่องจากบริษัทนี้พึ่งการส่งออก 100% จึงได้รับผลกระทบมาก ออเดอร์ที่ลดลงเป็นการ ส่งสัญญาณที่กระทรวงแรงงานจะต้องเข้าไปช่วยเหลือจับตาดูอย่างใกล้ชิด หากการผลิตลดลงเหลือศูนย์ ก็จะมีการเลิกจ้างลูกจ้างจำนวนมาก กระทรวงต้องเข้าไปจี้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้ได้ไม่เช่นนั้นลูกจ้างจะเดือดร้อน


นายอภัย กล่าวอีกว่า
 
ทราบว่าวันที่ 20 ก.ค.เวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่แรงงานจะได้เชิญผู้ประกอบการ 7 แห่งเข้าหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบปัญหาหรือชะลอการเลิกจ้างหรือจำเกป็นต้องมีการเลิกจ้างต้องให้นายจ้างทำตามกฎหมายอย่างเร่งรัด ทั้งนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แรงงาน หาข้อมูลตำแหน่งงานว่างเพื่อรองรับการจะปิดตัวของโรงงานดังกล่าวโดยเร็ว
 
ทั้งนี้สถานประกอบการในจ.ชลบุรี

ส่วนใหญ่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของรัฐและของเอกชนมีบริษัทในเครือสหพัฒนพิบูลย์ และสหยูเนี่ยน ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีกำลังการผลิตสูงหากมีการเลิกจ้างจะมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก นอกจากนี้ได้สั่งการให้สวัสดิการฯเข้าไปสอดส่องพร้อมกับเร่งเจรจากับนายจ้างก่อน


นายอภัย ยังกล่าวถึงความคืบในการช่วยเหลือแรงงานบริษัท ไทยศิลป์ฯที่ส่อนายจ้างจะปิดกิจการในรอบที่ 2 เนื่องจากไม่มีเงินทุน ว่า

ได้สั่งการให้นายสุเทพ อุ่นสมัย รองอธิบดี กสร.เข้าไปทำการเจรจานายจ้าง ให้พยายามหาแหล่งเงินกู้มาจ่ายให้ลูกจ้างให้ได้ ไม่ใช่ นั้นจะมีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งในวันนี้ (19กค.)นายจ้างจะมีการหารือพร้อมทั้งประกาศอนาคตความอยู่รอดบริษัทให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ


ทั้งนี้ลูกจ้างที่ต้องตกงานไม่ต้องกังวัลเพราะในจ.สมุทรปราการ

ขณะนี้มีโรงงานต้องการรับคนเข้าทำงานอีก 108 แห่ง 12,0000 อัตรา ซึ่งจะให้กรมการจัดหางานเข้าไปตั้ง โต๊ะรับสมัครทันทีหากมีการเลิกจ้าง “ในวันที่ 24 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนรวมชุดใหญ่ ผมจะเสนอให้ที่ประชุมเร่งทำการตรวจสอบคุณภาพสินค้า อุตสาหกรรม รวมถึงสถานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งจะทำให้รู้ว่าบิรษัทจะเลิกจ้างหรือไม่ เพื่อจะนำมากำหนดแผนการช่วย เหลือลูกจ้างต่อไป”นายอภัย

รายงานข่าวจากกระทรวงแรงงานแจ้งว่า

ภายหลังเกิดปัญหาความผันผวนทางเศรษฐกิจจากพิษค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ได้ส่งผลกระทบมายังห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างท็อบซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งได้ออกนโยบายประกาศแจ้งไปยังผู้จัดการห้างท็อปฯเกือบ 100 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งมีพนักงานประมาณหลายพันคนขอให้มีการประเมินเพื่อลดจำนวนพนักงานในฝ่ายปฏิบัติการอาหารที่มีอยู่ 1,000 คน โดยให้นำร่องสาขาละ 7-8 คน เนื่องจากขณะนี้ ทางบริษัทได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ยอดการขายลดลง มีความจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่าย


อย่างไรก็ตาม

การปลดพนักงานดังกล่าวเป็นไปในลักษณะการบังคับให้เซ็นใบลาออกโดยไม่ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน 2541 เพราะนายจ้างอ้างว่า พนักงานได้ทำผิดระเบียบบริษัท เช่น การที่พนักงานอนุญาติให้ลูกค้าชิมอาหารโดยพลการหรืออ้างว่าไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ทั้งที่กรณีนี้สามารถตักเตือนกัน ได้


ข่าวแจ้งอีกว่า

ขณะนี้พนักงานถูกบังคับให้ลาออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20 คน ส่วนใหญ่อายุงาน 4-5 ปีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ทำให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบต่างก็ เดือดร้อนเพราะถือเป็นการรเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมส่วนใหญ่ต้องมีภาระค่าใช้จ่าย มีครอบครัว และยังไม่มีงานรองรับ ล่าสุดทราบว่าได้มีการเรียกพนักงานที่เข้ากะกลางคืนทุกสาขา เข้ามาพบฝ่ายบริหารของบริษัทเพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะมีการประเมินผลอย่างเคร่งครัด จึงได้ มีการรวมตัวกันโดยจะเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับกระทรวงแรงงานต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์