คุ้มกันแน่น นักค้ายาตัวเอ้ เกาไฉ้หลุน

กรณีตำรวจ บช.ปส.อายัดทรัพย์สินนายเศรษฐนันท์ สิริจิระสุข หรือจรัล ม่วงขาว อายุ 48 ปี


 นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ฉายา “เกาไฉ้หลุน” ที่ จ.พิษณุโลก เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่นายเศรษฐนันท์ต้องโทษอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ในความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยครบกำหนดปล่อยตัวให้เป็นอิสระในวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.ปส. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. จัดพนักงานสอบสวนเดินทางไปประสานงานกับตำรวจไต้หวัน พร้อมแสดงหลักฐานขออายัดตัวนายเศรษฐนันท์กลับมาดำเนินคดีในข้อหายาเสพติดในประเทศไทย


ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 23.40 น. วันที่ 17 ก.ค.
พ.ต.อ.วุฒิศาสตร์ อำพันยุทธ ผกก.5 บก.สส. พ.ต.ท.ลือชัย นนท์ปฏิมากุล สว.นปส.สุวรรณภูมิ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ เดินทางไปรับตัวนายเศรษฐนันท์ สิริจิระสุข หรือ “เกาไฉ้หลุน” ภายหลังถูกควบคุมตัวมากับสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 635 โดยนายเศรษฐนันท์ อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้าเข้ม กางเกงยีนสีน้ำเงิน ตัดผมสั้นเกรียน ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านกับการถูกตำรวจ ปส.ตามไปอายัดตัวมาสอบสวนในข้อหาเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด

จากนั้นนายเศรษฐนันท์ถูกนำขึ้นรถตู้มาสอบสวนที่ชั้น 7 บช.ปส.
ตั้งแต่เวลา 00.15 น. ถึง 01.30 น. โดยนายเศรษฐนันท์เปิดเผยว่า การกลับเมืองไทยครั้งนี้ต้องการที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพราะตั้งแต่ถูกจับกุม ถูกพรรคพวกในขบวนการค้ายาเสพติดกลั่นแกล้งมาตลอด แต่ไม่อยากพูดตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร อีกทั้งระหว่างอยู่ ในแวดวงค้ายานรกกับกลุ่มนายทุน ซึ่งมีทั้งคนมีสี และผู้มีอิทธิพล เคยถูกข่มขู่ต่างๆนานา หากถูกตำรวจจับกุมได้ พรรคพวกในวงการพร้อมหาหนทางชิงตัวหรือฆ่าทิ้ง เพื่อไม่ให้การสอบสวนขยายผลไปถึง แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้ตนคิดได้แล้วว่าถึงเวลาทำความดี เพื่อประเทศชาติบ้าง ที่ผ่านมาถือว่าหลงผิดมานาน ต้องขอโทษครอบครัวด้วยที่ทำให้ลำบาก ส่วนการปลอมเอกสารหลบหนีไปประเทศไต้หวันนั้น มีคนในวงการจัดการให้ แต่ต้องเสียเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนไปประมาณ 3 แสนกว่าบาท 


พ.ต.อ.ทีฆะโชติ สุวรรณาคม ผกก.คุมงานข่าว บช.ปส. กล่าวว่า


จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้ข้อมูลสำคัญในหลายเรื่องที่จะต้องขยายผลหาหลักฐานประกอบ มีบางเรื่องที่สอดคล้องกับคดี ส่วนแนวทางการสอบสวนไปยังคดีอื่นๆอีกหลายคดีนั้น เป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้พิจารณาสั่งการ สำหรับนายเศรษฐนันท์มีคดีที่ถูกออกหมายจับไว้ 3 คดี คือคดีที่ สภ.อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และที่ สน.บางเขน อีก 2 คดี


พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า

นายเศรษฐนันท์เป็นตัวการสำคัญคนหนึ่งในวงการค้ายาเสพติดที่มีทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลและคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง จากการสืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายเชื่อมโยงไปยังกลุ่มนักค้าของนายสุรชัย หรือบังรอน เงินทองฟู ด้วย 


ต่อมาเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบก.ปส.1

นำตัวนายเศรษฐนันท์มาสอบปากคำที่ห้องศูนย์การข่าว ชั้น 8 บช.ปส. เพื่อขยายผลในคดีที่เกี่ยวพันอยู่ทั้งหมด 9 คดี มีทั้งคดียาเสพติด และคดีอุ้มฆ่าอีกหลายท้องที่ แต่การสอบปากคำในวันนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม ในคดียาเสพติดท้องที่ สภ.อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับประเด็นที่มีกลุ่มคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยระหว่างการให้ปากคำถึงกลุ่มบุคคลดังกล่าว นายเศรษฐนันท์มีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ก็ให้รายละเอียดอย่างครบถ้วนว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงจุดนัดพบ สถานที่นัดเจรจาในการซื้อขายยาเสพติด โดยพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นข้อมูลจริง เนื่องจากข้อมูลที่ฝ่ายสืบสวนได้มาก่อนหน้า สอดคล้องกับคำให้การเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การสอบปากคำเป็นไปจนถึงเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้าห้องควบคุมที่ชั้นล่าง บก.สอบสวน บช.ปส.


มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช. ปส.

สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่เวรห้องขังเพิ่มระดับความเข้มงวดชั้นสูงสุด ห้ามบุคคลใดเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด ส่วนอาหารเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้จัดให้เท่านั้น เพื่อป้องกันการลอบวางยาพิษ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของ บช.ปส.พร้อมอาวุธครบมือเดินทางไปกับพนักงานสอบสวนในการนำตัวนายเศรษฐนันท์ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในเช้าวันที่ 19 ก.ค. เพื่อป้องกันการชิงผู้ต้องหา หรือดักซุ่มทำร้ายผู้ต้องหาคดีสำคัญรายนี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์