พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา แถลงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีการข่มขู่ พล.ต.ต.ปวีณ ดังที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่ามีการคุกคามเอาชีวิตจนต้องขอลี้ภัยในออสเตรเลียแต่อย่างใด
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า หลังจากที่ตนพร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 และพื้นที่ สภ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ได้สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวในทุกมิติ โดยสั่งให้ตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และสั่งให้พนักงานสอบสวนในคดีค้ามนุษย์ทุกคนรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ามีรายละเอียดอย่างไรและมีการข่มขู่พนักงานสอบสวนคดีนี้จริงหรือไม่ อีกทั้งยังได้ไปตรวจเยี่ยมและซักถามเหยื่อหรือผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวแล้ว ผลปรากฏว่าไม่พบมีการข่มขู่คุกคามตามที่ พล.ต.ต.ปวีณ ให้ข้อมูลกับทางสื่อต่างประเทศแต่อย่างใด
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาตนและคณะตรวจสอบพยายามอย่างมากที่จะติดต่อกับทาง พล.ต.ต.ปวีณ ทั้งทางโทรศัพท์และแอปพลิเคชันไลน์ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ก็ได้กำชับทีมงานให้พยายามติดต่อ พล.ต.ต.ปวีณ ให้ได้ เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการถูกข่มขู่ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รวมถึงมีวัตถุประสงค์ใดในการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศจนทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย ถ้าพล.ต.ต.ปวีณ ไม่กลับมาไทย หรือไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ในระหว่างการแถลงข่าว ทางตำรวจได้แสดงแผนผังซึ่งระบุว่า พล.ต.ต.ปวีณ เข้ามาสอบสวนคดีค้ามนุษย์เมื่อวันที่ 28 พ.ค. จนต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวน ซึ่งหมายความว่า พล.ต.ต.ปวีณ เข้ามาร่วมสอบสวนได้เพียง 20 วัน อำนาจการสอบสวนก็หมดลงตามกฎหมาย ดังนั้นการบังคับข่มขู่ใด ๆ จะไม่เกิดประโยชน์ต่อคดี เพราะตำรวจหมดอำนาจสอบสวนไปแล้ว ระหว่างนั้น พล.ต.ต.ปวีณ ไม่ได้ลงนามในเอกสารใด ๆ เพียงแต่เซ็นเอกสารเพื่อขอออกหมายจับ พล.ต.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกเท่านั้น ส่วนจากนี้จะต้องดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.ปวีณ ในเรื่องการกล่าวหาให้ประเทศเสียหายหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขอขอบคุณ บีบีซีไทย - BBC Thai