14 ธ.ค. คุณสุหฤท สยามวาลา นักธุรกิจและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ความเห็นลงในแฟนเพจส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5.6 แสนคน เกี่ยวกับแนวคิดการเสนอให้บรรจุอาชีพ เเละรายได้ของคนไทยทุกคนลงในบัตรประชาชน โดยระบุว่า
เรื่องระบุอาชีพผมเฉย ๆ ใส่ได้เพราะจะไปไหนทำอะไรเขาก็ถามอาชีพ แต่เรื่องรายได้เขาไม่ถามกันยกเว้นทำบัตรเครดิตและงานวิจัย และผมก็เว้นว่างไว้
ถ้าพูดในแง่บริษัทเอกชนมันมีเหตุผลที่ต้องให้เรื่องรายได้เป็นความลับ ไม่มีใครประกาศติดบอร์ดว่าพนักงานคนไหนได้รายได้เท่าไหร่ ไม่มีครับ แต่มันไม่ลับเลยสำหรับภาคราชการ เราต้อง declare เป็นประจำทุกปีว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ และนั่นคือแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดอยู่ที่สรรพากร run ตัวเลขออกมาก็รู้หมดอยู่แล้ว
จากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์วันนี้ เสธ.ไก่อูได้บอกไว้ว่าอย่าเอาแต่ตั้งข้อสังเกตุหรือเรียกง่าย ๆ ว่าด่า ให้เสนอความเห็นด้วย ผมจึงเสนอดังต่อไปนี้
ปัญหามันมีมากมายถ้าระบุรายได้
1 รายได้แต่ละคนไม่แน่นอนเปลี่ยนทุกปี ยิ่งพนักงานที่ได้คอมมิชชั่นขึ้นกับผลงานเช่นพนักงานขาย จะลงรายได้อย่างไร มันก็ต้องลงเฉลี่ยไปแล้วมันจะเชื่อถือได้แค่ไหนบนบัตรประชาชน มิต้องทำบัตรกันทุกปีรึ หรือให้ทำทุกเดือน
2 ถ้าบอกว่าจะได้รู้ว่าใครจนใครรวยจะได้ช่วยเหลือถูก ท่านก็ run ฐานข้อมูลบัตรประชาชนเทียบกับการเสียภาษี ผุ้ที่ไม่ได้เสียภาษีก็คือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพราะรายได้น้อย ก่อนจะช่วยท่านก็ตรวจสอบเอาว่าจริงหรือไม่ งานไม่น้อยกว่าหรือครับ
3 ข้อมูลที่อยู่บนบัตรประชาชนเป็นข้อมูลแท้ที่ต้องผ่านการตรวจสอบ การลงรายได้นั้นท่านจะมีวิธีตรวจสอบอย่างไรว่าทุกคนลงตัวเลขจริง ก็ต้องถามกรมสรรพากรแล้วเอาตัวเลขเดียวกันมาลง ในเมื่อมีอยู่แล้วก็จัดการให้ดีตรงนั้นดีกว่าไหมครับ หรือถ้าท่านคิดว่าการลงตัวเลขบนบัตรประชาชนจะถูกต้องกว่ากรมสรรพากร อย่างแรกที่ท่านต้องทำคือยกเครื่องกรมสรรพกรใหม่หมดก่อน
4 ถ้าจะต้องทำจริง ๆ ผมก็ท้วงอะไรท่านไม่ได้ แต่เสนอให้ทำสามระยะครับ ระยะที่ 1 ให้ทำบัตรประชาชนใหม่แก่คณะรัฐมนตรี นายพลทั้งทหารและตำรวจ อธิบดี และ นักการเมืองทุกคน ระยะที่สอง ให้ทำกับข้าราชการทุกคน เมื่อทำทั้งสองระยะเสร็จให้เปิดเผยต่อสาธารณะชนเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบว่ามีระบบการกรองข้อมูลที่ถูกต้อง เมื่อได้ทั้งหมดแล้วมาระยะสามคือให้ประชาชนทุกคนทำ อย่างนี้ก็น่าจะโอมั้งครับ แต่ท่านต้องแน่ใจข้อมูลในบัตรประชาชนของระยะที่ 1 กับ 2 นะครับ เพราะมิเช่นนั้นคนที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยก็คือประชาชนเองนั่นแล
5 งานนี้สงสัยท่านจะใช้กลยุทธ์สร้างความปรองดองแน่ ๆ เลยครับ รับรองประชาชนจะรักกัน ไม่มีความเชื่อเรื่องการเมืองมาแบ่งแยก สร้างความสามัคคิดีเยี่ยม แต่ผมว่ามันมีอะไรให้สะสางอีกเยอะที่ยังคาใจประชาชนนะครับ ท่านทำตรงนั้นก่อนไหมครับ
6 ถ้าท่านอยากจะให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยโชว์บัตรประชาชนก็ได้สิทธิ์ทันที ท่านก็ต้องมีฐานข้อมูลก่อนว่าใครได้รับสิทธิ์นั้น ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะต้องไปใส่รายได้อะไรในบัตรประชาชน เราสามารถเอา data มา mapping กันได้เลยครับ
ผมอาจจะเป็นผู้ที่มีความรู้น้อยนะครับ ใครทราบเหตุผลหรือว่าผมพูดผิดเข้าใจผิดตรงไหนก็บอกได้นะครับ เราจะได้เรียนรู้ร่วมกันด้วยการโต้แย้งที่มีเหตุผลมากกว่าด่ากันไปมา
สุหฤท สยามคุยกันดีๆด้วยเหตุผล