กลัวน้อยหน้า´ไทย´นศ.ปินส์ลุกฮือ ประท้วงรอบใหม่ไล่ ´อาร์โรโย´

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2549 23:49 น.

เอเจนซี / เอเอฟพี - ตำรวจฟิลิปปินส์ใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษานับพันคน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย หลังผู้ประท้วงรวมตัวครั้งใหม่เพื่อกดดันประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ให้ประกาศลาออกตามแบบอย่างนายกฯทักษิณ ชินวัตรของไทย

"อะไรที่เกิดขึ้นกับทักษิณ จะต้องเกิดขึ้นกับกลอเรียด้วยอย่างแน่นอน" เวนเซอร์ คริสอสโตโม หัวหน้ากลุ่มสันนิบาตนักศึกษาฟิลิปปินส์ ประกาศระหว่างนำสมาชิกราว 1,000 คน เดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดีมาลากันยัง ในกรุงมะนิลา วันนี้ (6 เม.ย.)

การเดินขบวนดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ผู้ประท้วงจะปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ซึ่งพยายามสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมข้ามแนวเส้นกีดขวางของตำรวจ เพื่อมุ่งหน้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้มีผู้ประท้วงบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้น กลุ่มนักศึกษาได้สร้างความตกตะลึงให้กับตำรวจ เมื่อพวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงเที่ยงวัน และพากันเดินขบวนต่อไปจนอยู่ห่างจากประตูทำเนียบเพียง 500 เมตร ทำให้ตำรวจต้องรีบเข้ามาขัดขวาง และใช้กระบอง พร้อมกับฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุม

อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว ประธานาธิบดีอาร์โรโย ไม่ได้อยู่ภายในทำเนียบ ขณะที่ตำรวจได้อ้างเหตุผลในการใช้กำลังสกัดกั้นผู้ประท้วงว่า เป็นเพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากทางการ

การรวมตัวขับไล่ผู้นำฟิลิปปินส์ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากประชาชนชาวไทยภายในชาติในลักษณะเดียวกัน ยอมประกาศเว้นวรรคทางการเมือง ทำให้ชาวตากาล็อกหลายคนต้องการให้อาร์โรโย ประกาศลงจากอำนาจในแบบเดียวกัน

แต่ถึงกระนั้น อิกนาซิโอ บันเย โฆษกของอาร์โรโย ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำการเดินขบวนดังกล่าว

"พวกเขาพยายามใช้สถานการณ์ในประเทศไทย มาทำให้มันเป็นประเด็นของตน" บันเยกล่าวต่อไปว่า "บรรดานักวิจารณ์ล้วนแสดงให้เห็นถึงอวิชชา เกี่ยวกับระบบการทำงานของรัฐบาลปัจจุบันของเรา เมื่อพวกเขานำมันไปเปรียบเทียบกับระบบรัฐสภาในประเทศไทย"

ด้านเอ็ดการ์โด อังการา วุฒิสมาชิกฝ่ายค้านซึ่งเห็นอกเห็นใจอาร์โรโย ให้สัมภาษณ์กับวิทยุแดนตากาล็อกในวันเดียวกันว่า ฟิลิปปินส์อาจถลำลึกเข้าสู่วิกฤต หากประธานาธิบดีหันมาใส่ใจกับเสียงเรียกร้องให้ลาออก

"หากเธอลาออก เราจะเข้าสู่กลียุค เพราะหลังจากนั้นจะไม่มีทางเลือกอื่นใดมารองรับ" อังการากล่าว และเสริมว่า ฟิลิปปินส์ไม่มีกฎหมายที่เปิดทางให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าคล้ายกับที่ทักษิณ เลือกประกาศใช้ในประเทศไทย

"เมื่อเธอล้มลง เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานกับชะตากรรมเดียวกับกับผู้นำฟิลิปปินส์คนอื่นๆ ผู้ซึ่งถูกลืมเลือนไปจากประวัติศาสตร์ของเรา...เราจะมุ่งหน้าสู่มาลากันยัง และจะขับไล่เธอออกไป" คริสอสโตโมประกาศ หลังอาร์โรโยถูกกล่าวหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง และคอร์รัปชั่น จนทำให้มีประชาชนออกมาประท้วงตามท้องถนนบ่อยครั้ง เพื่อหวังกดดันให้เธอก้าวลงจากอำนาจโดยไม่เสียเลือดเนื้อ แบบเดียวกับที่เคยใช้สำเร็จในยุคขับไล่ผู้นำจอมเผด็จการเฟอร์ดินาน มาร์กอส เมื่อปี 1986