ราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ ต่อข่าวลือ เรื่อง ปรากรม วารุณประภา เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ ต่อข่าวลือ เรื่อง ปรากรม วารุณประภา เสียชีวิต


กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ต่อกรณีที่มีข่าวว่า ผู้ต้องขังได้ผูกคอเสียชีวิต โดยมีรายละเอียดระบุดังนี้

แถลงข่าวกรมราชทัณฑ์

เรื่อง ผู้ต้องขังเสียชีวิต

กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. จากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่า ข.ช.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งได้รับตัวไว้ควบคุมตามหมายขังของศาลทหารกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2558 ได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการใช้ผ้าจากเสื้อผู้ต้องขังที่ทางเรือนจำจ่ายให้ตามระเบียบผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขังภายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีโดยเวรรักษาการณ์กลางคืนในวันดังกล่าวได้ตรวจพบจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและเปิดห้องขังเข้าไปให้การช่วยเหลือในทันที

ในเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องขังยังไม่เสียชีวิต จึงได้พยายามใช้เครื่องช่วยหายใจและให้การปฐมพยาบาล พร้อมกับนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในทันที จนกระทั่งนำตัวส่งถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และได้รับแจ้งจากแพทย์ในเวลาต่อมาว่าผู้ต้องขังได้เสียชีวิตแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีดังนี้

1. ห้องขังที่เรือนจำชั่วคราว ไม่ใช่ห้องขังเหมือนเรือนจำปกติทั่วไป แต่ใช้อาคารที่ทำการของหน่วยทหาร ซึ่งมีประตูทึบผนังปูน 4 ด้าน ไม่สามารถมองตรวจตราจากภายนอกได้ ต้องเปิดประตูจึงจะมองเห็น ภายในห้องขังมีเครื่องหลับนอนผู้ต้องขัง ใช้ระบบขังเดี่ยว ผู้ต้องขังทั้งหมดไม่มีโอกาสพบกัน

2.การควบคุมผู้ต้องขังเวลากลางคืนจะมีเวรผลัดละ 1 คน คอยเดินตรวจตรา ซึ่งขณะนี้ เรือนจำชั่วคราวมีผู้ต้องขังรวม 5 คน ประกอบกับเป็นวันหยุดราชการ ไม่มีการสอบสวน ผู้ต้องขังถูกขังห้องเพียงลำพัง ไม่มีโอกาสพบคู่คดี จะมีการเดินตรวจเป็นระยะเท่านั้น

3.คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ผู้ต้องขังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจมีปัญหาในการปรับตัว เพราะเพิ่งรับตัวไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2558

การเสียชีวิตของผู้ต้องขังในครั้งนี้ เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งศพให้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป

จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์