เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ก.ค. 50 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ตั้งจุดเก็บค่าผ่านทางในถนน กม.11 (ซอยวิภาวดี 11) ทั้งซอยด้านข้าง ปตท.สำนักงานใหญ่ และซอยด้านหลังทั้งสองซอย โดยชำระค่าผ่านทาง 10 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะฉีกบัตรค่าผ่านทางให้ สร้างความสงสัยให้กับประชาชนที่ผ่านเส้นทางนี้ ซึ่ง ไม่ทราบข่าวมาก่อน และสอบถามจากเจ้าหน้าที่จำนวนมาก เพราะเป็นการให้เจ้าหน้าที่ยืนจัดเก็บโดยไม่มีไม้กั้นและไม่มีการติดป้ายประกาศแจ้งไว้ รวมทั้งผิวถนนก็ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม
การรถไฟเริ่มเก็บค่าผ่านทางถนนกม.11แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ก.ค. 50 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ตั้งจุดเก็บค่าผ่านทางในถนน กม.11 (ซอยวิภาวดี 11) ทั้งซอยด้านข้าง ปตท.สำนักงานใหญ่ และซอยด้านหลังทั้งสองซอย โดยชำระค่าผ่านทาง 10 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะฉีกบัตรค่าผ่านทางให้ สร้างความสงสัยให้กับประชาชนที่ผ่านเส้นทางนี้ ซึ่ง ไม่ทราบข่าวมาก่อน และสอบถามจากเจ้าหน้าที่จำนวนมาก เพราะเป็นการให้เจ้าหน้าที่ยืนจัดเก็บโดยไม่มีไม้กั้นและไม่มีการติดป้ายประกาศแจ้งไว้ รวมทั้งผิวถนนก็ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ก.ค. 50 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ตั้งจุดเก็บค่าผ่านทางในถนน กม.11 (ซอยวิภาวดี 11) ทั้งซอยด้านข้าง ปตท.สำนักงานใหญ่ และซอยด้านหลังทั้งสองซอย โดยชำระค่าผ่านทาง 10 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะฉีกบัตรค่าผ่านทางให้ สร้างความสงสัยให้กับประชาชนที่ผ่านเส้นทางนี้ ซึ่ง ไม่ทราบข่าวมาก่อน และสอบถามจากเจ้าหน้าที่จำนวนมาก เพราะเป็นการให้เจ้าหน้าที่ยืนจัดเก็บโดยไม่มีไม้กั้นและไม่มีการติดป้ายประกาศแจ้งไว้ รวมทั้งผิวถนนก็ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม
ด้านนางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ
หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า คณะทำงานดำเนินการในพื้นที่บริเวณย่านพหลโยธิน แปลง 5-6 ได้เริ่มจัดเก็บรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีความประสงค์จะใช้ถนนภายในบริเวณบ้านพักการรถไฟฯ กม.11 เป็นทางลัดเพื่อเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิตและถนนกำแพงเพชร 2 ได้ ในอัตราคันละ 10 บาท โดยคณะทำงานฯ จัดเจ้าหน้าที่จัดเก็บในช่วงเวลา 05.00-21.00 น. ทุกวัน
สำหรับรถยนต์ที่ได้รับการยกเว้น
ไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง ประกอบด้วย รถยนต์ของผู้ที่ปฏิบัติงานรถไฟต้องแสดงบัตรประจำตัวผู้ปฏิบัติงาน รถยนต์ของหน่วยงานราชการ และรถยนต์สาธารณะ (แท็กซี่, สามล้อเครื่อง, มอเตอร์ไซค์) ส่วนรถขนาดใหญ่ อาทิ รถทัวร์ รถรับจ้างไม่ประจำทาง รถบรรทุก ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก จะไม่อนุญาตให้ผ่านถนนดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาถนนชำรุด
เนื่องจากแต่ละวัน
มีรถผ่านเข้าออกประมาณ 3,000 คันต่อวัน ทำให้เกิดปัญหาถนนที่มีขนาดเล็กชำรุด ระบบสาธารณูป โภคเสียหาย การรถไฟฯ ต้องนำเงินรายได้มาซ่อมบำรุงรักษาถนน ระบบสาธารณูปโภคครั้งละกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันผลประกอบการของการรถไฟฯ มีการดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด จึง จำเป็นต้องหาเงินมาซ่อมบำรุงเส้นทาง.
มีรถผ่านเข้าออกประมาณ 3,000 คันต่อวัน ทำให้เกิดปัญหาถนนที่มีขนาดเล็กชำรุด ระบบสาธารณูป โภคเสียหาย การรถไฟฯ ต้องนำเงินรายได้มาซ่อมบำรุงรักษาถนน ระบบสาธารณูปโภคครั้งละกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันผลประกอบการของการรถไฟฯ มีการดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด จึง จำเป็นต้องหาเงินมาซ่อมบำรุงเส้นทาง.