พ่อหนุ่มเบนซ์แจ้งจับคนรุมตื้บลูกชาย ขณะตำรวจเร่งประสานสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ขอรายงานไข้ลูกอดีตนางสาวไทย อธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยการเปิดเผยข้อมูลต้องให้ญาติคนไข้อนุญาต เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สังคมรุมประณาม "กัณฑ์เอนก" หลังออกทีวีด่า "คนชั้นล่าง-คนไร้การศึกษา"
พ่อหนุ่มเบนซ์ยัวะลูกถูกรุม-ด่าออกทีวีจะไปเชื่ออะไรกับคนชั้นล่างสังคม-เวบรุมประฌาม
จากกรณี นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บุตรชายของนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ และนางสาวิณี ปะการะนัง นางสาวไทยปี 2527
ขับรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ศศ 6699 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนกับรถโดยสารประจำทางปรับอากาศร่วมบริการสาย 513 จนมีเรื่องกับโชเฟอร์รถเมล์
แล้วจู่ๆ ก็ขับรถพุ่งชนผู้โดยสารที่ลงไปยืนรอเปลี่ยนรถบนฟุตบาท ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนั้น
เวลาต่อมา นางสายชล หลวงแสง อายุ 42 ปี พนักงานการเงินของ ขสมก.ก็เสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่าเพราะถูกรถทับที่หน้าอกและลำตัวจนซี่โครงหักไปทิ่มอวัยวะภายใน กระดูกเชิงกรานแตกละเอียด และนายกัณฑ์พิทักษ์ถูกตำรวจตั้ง 3 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ บิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ เปิดเผยถึงอาการของบุตรชายหลังสแกนสมอง 2 ครั้ง พบว่าสมองไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนการเอกซเรย์หลัง หากพบเลือดคั่งก็จะต้องผ่าตัด ขณะที่อาการทางสมองจะต้องรอปรึกษา พ.ญ.รัชนีกร แพทย์ประจำสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งขณะนี้ยังติดงานอยู่ที่ต่างประเทศ จึงยังไม่ได้กินยารักษาอาการทางสมอง
แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องการให้อาการทางร่างกายดีขึ้นก่อน จึงจะดำเนินการทางคดีได้ และวันนี้เตรียมเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ภรรยาจะนำพวงหรีดไปร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่วัดทองคง ตรงข้ามฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ
นายกัณฑ์เอนก ยังกล่าวด้วยว่า จะฟ้องดำเนินคดีกับผู้ที่รุมทำร้ายบุตรชาย ซึ่งขณะนี้รู้ตัวแล้ว และเตรียมแจ้งความดำเนินคดี หลังจากคดีลูกชายเสร็จสิ้น โดยยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องวิ่งเต้นล้มคดี พร้อมที่จะให้คดีของลูกชายเป็นไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง
ด้าน น.ส.สุชีรา อินทร์สุวรรณ อายุ 25 ปี พนักงานขายบริษัท ไอดี แอดวานซ์ จำกัด บุตรสาวของนางสายชล ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ได้ไปที่ทำงานของมารดาเพื่อมารับเอกสารและจัดการเรื่องต่างๆ ให้แล้วเสร็จ ส่วนการเสียชีวิตของมารดาขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ และจนถึงขณะนี้ต้องการให้คนที่เป็นต้นเหตุให้มารดาเสียชีวิตมากราบศพขอขมา แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด แต่หากเดินทางมาขอขมามารดาจริงก็จะให้อภัย และเชื่อว่าวิญญาณของมารดาก็จะให้อภัยเช่นกัน
"ฝ่ายคู่กรณีจะช่วยเหลือครอบครัวนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ขอให้ผ่านงานศพแม่ไปก่อน ต่อจากนี้ไปคงต้องรับภาระต่อจากแม่ เพราะแม่ผ่อนคอนโดไว้ และต้องคอยช่วยส่งเสียเลี้ยงดูน้องชายอายุ 15 ปี ที่มีปัญหาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นลูกของน้าที่เสียชีวิตไปแล้ว" น.ส.สุชีรา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ยังคงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด น.ส.แสงนิน อิ่มโสดาศรี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคามิลเลียน แพทย์ยังคงให้อยู่ในห้องไอซียู และสามารถหายใจด้วยตัวเองได้แล้ว แต่กระดูกซี่โครง ไหปลาร้า และกระดูกที่หัก ยังต้องให้แพทย์รักษาอย่างต่อเนื่อง
ส่วน น.ส.สังวาล ศรีหวงศ์ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาราม บาดเจ็บบริเวณกระดูกเชิงกรานด้านขวาหัก ตอนนี้รู้สึกตัวดี และนายมาโนช โตจร ที่บาดเจ็บกระดูกซี่โครงซี่ที่ 2, 8 และกระดูกไหปลาร้า กระดูกเชิงกรานหักทั้งสองข้าง อีกทั้งยังมีเลือดออกทางช่องปอดด้วยนั้น ขณะนี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาการโดยรวมยังทรงตัว
ส่วนความคืบหน้าของคดี วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิสิทธิ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่นายกัณฑ์พิทักษ์ ขับรถชนคนเสียชีวิตว่า ผลการตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนกันจริงระหว่างรถยนต์ของนายกัณฑ์พิทักษ์กับรถ ปอ.สาย 513 โดยรถเบนซ์มีรอยเฉี่ยวที่กระจกมองข้างด้านซ้าย มีสีของรถเมล์ติดอยู่ ส่วนรถเมล์มีรอยครูดเป็นทางยาวบริเวณด้านขวาช่วงท้ายของรถ ซึ่งมีสีของรถเบนซ์ติดอยู่
"คดีนี้อาจเป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ไม่ส่งผลต่อคดีหลักที่นายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถพุ่งชนคนบนฟุตบาทจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ" ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าว
พ.ต.อ.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ประสานกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อสอบปากคำแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งทราบเพียงชื่อคือ พ.ญ.รัชนีกร ที่กำลังติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ
เนื่องจากนายกัณฑ์เอนก บิดานายกัณฑ์พิทักษ์ ระบุว่าบุตรชายไปรักษาอาการป่วยทางสมอง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าป่วยเป็นโรคอะไร กินยาอะไร และมีระยะเวลาในการรักษาตัวนานเท่าไร รวมถึงอาการของโรคจะมีผลกระทบต่อการขับรถหรือไม่
ดังนั้น ในขั้นตอนนี้คำกล่าวอ้างของนายกัณฑ์เอนกที่ระบุว่าบุตรชายไม่ได้สติระหว่างก่อเหตุจึงไม่สามารถรับฟังได้ และคดีนี้ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 10 ปาก และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะลงพื้นที่สอบปากคำ พ่อค้า แม่ค้า และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในละแวกที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุด มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายกัณฑ์พิทักษ์แล้ว 9 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีญาติและเพื่อนของผู้บาดเจ็บบางรายเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ของนายกัณฑ์พิทักษ์ ออกมาแสดงตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบในเรื่องกฎหมายและค่าใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ เพราะจนถึงขณะนี้บริษัทประกันยังไม่มีการกล่าวถึง และยังไม่แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
วันเดียวกัน น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า นายกัณฑ์พิทักษ์เป็นคนไข้ที่แพทย์จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กับโรงพยาบาลสมิติเวช ดูแลร่วมกัน เป็นคนไข้ที่เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องที่สองโรงพยาบาล ส่วนการจะเปิดเผยอาการของคนไข้ขึ้นอยู่กับญาติและแพทย์เจ้าของไข้ต้องหารือกันว่าจะเปิดเผยอย่างไร เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ด้าน น.พ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า การเปิดเผยอาการของคนไข้ ขอให้ไปสอบถามที่ญาติของผู้ป่วย และในส่วนของสถาบันนั้น ขณะนี้แพทย์เจ้าของไข้เดินทางไปราชการต่างประเทศประมาณ 1 สัปดาห์ และสถาบันจะยังไม่มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับอาการคนไข้แต่อย่างใด
เมื่อเช้าวันที่ 6 กรกฎาคม นายกัณฑ์เอนกออกรายการทีวี โดยให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จนมีคนกล่าวถึงในหลายเวบไซต์ เนื่องจากบิดาของนายกัณฑ์พิทักษ์ ใช้คำว่า "คนไร้การศึกษา" กับกลุ่มคนที่ถูกลูกชายขับรถชน ซึ่งแม้ในเวลาต่อมา นายกัณฑ์เอนกจะออกมาบอกว่าหมายถึง "กระเป๋ารถเมล์" เพียงคนเดียว แต่ก็ทำให้ถูกคนจำนวนมากมองว่าเป็นการดูถูกเหยื่อที่ถูกลูกชายขับรถชน
โดยเมื่อพิธีกรถามว่า เมื่อนายกัณฑ์พิทักษ์เอาก้อนหินไปตีหัวคนขับรถเมล์ ปอ.513 ซึ่งนายกัณฑ์เอนกบอกว่าตี 1 ที แต่พิธีกรบอกว่าคนขับรถบอกว่าตี 2 ที นายกัณฑ์เอนกก็พูดว่า "จะไปเชื่ออะไรกับคนเหล่านั้น คนไร้การศึกษาแบบนั้น" และยังระบุว่า "พวกนี้ชนชั้นล่าง ชอบกลั่นแกล้งคนมีรถเบนซ์ คนรวย พวกนี้ไม่ชอบคนรวย ไม่ชอบตำรวจ มองว่าชอบรังแกคนจน"
ขณะเดียวกัน เมื่อนายวิศาล ดิลกวณิช จัดรายการข่าวเช้า เวลา 04.00 น.ทางช่อง 3 และพูดว่า "มีคนบอกว่า แฮมแกล้งชักหรือเปล่าครับ" ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของสังคมที่มี นายกัณฑ์เอนกกลับโต้ว่า "ไม่เคย อาการนั้นๆ โกหกไม่ได้ แฮมไม่ได้เป็นนักแสดง" แถมยังระบุว่า กลุ่มคนขับรถเมล์เป็นคนชั้นล่าง โดยเสนอว่า "รัฐต้องจัดการรถเมล์ เพราะทำให้สุขภาพจิตเสีย คนไทยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีรัฐช่วยแก้"
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว