ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.ค. นายบรรจง วงศ์วิเชียร ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่า องค์พระบรมธาตุเจดีย์ทรุดและเอียง
ทั้งนี้ หลังตรวจสอบในเบื้องต้น นายบรรจงกล่าวว่า
ได้รายงานเรื่องนี้ให้กรมศิลปากรทราบอย่างเร่งด่วนแล้ว เพื่อส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถานมาตรวจสอบ เนื่องจากตามหลักฐานทางโบราณสถานโบราณคดี ฐานขององค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ใช้ไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่วางเรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมสร้างฐานแบบโบราณ ไม่ได้ใช้เสาคอนกรีตอัดแรงเป็นรากฐาน เช่นเดียวกับการก่อสร้างในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น จึงสร้างผลกระทบต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พระธาตุนครศรีฯ ทรุดเอียง รถขนจตุคามขย่ม
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่า
ได้มีบรรดาผู้สร้างวัตถุมงคลนำรถยนต์บรรทุก ทั้งรถสิบล้อและรถหกล้อกว่า 20 คัน บรรทุกวัตถุมงคลจตุคาม รามเทพ เข้ามาปลุกเสกภายในวัด ทั้งที่ทางวัดได้ติดประกาศห้ามนำรถบรรทุกเข้ามาในเขตวัด ทำให้ถนนภายในวัดซึ่งปูพื้นด้วยอิฐตัวหนอนพังเสียหาย
นอกจากนั้นปรากฏว่า
คานหลังคาวิหารด้านข้างขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ได้แตกร้าวด้วย แต่ที่น่าตกใจอย่างยิ่งคือองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่เกิดเอียงทรุดเพราะแรงสั่นสะเทือนของรถบรรทุก ไปทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 5 องศา
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กุฏิของพระราชธรรมสุธี
เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พบว่าที่กุฏิมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราชกว่า 10 คน กำลังพูดคุยกับเจ้าอาวาส เรื่องข้อมูลการสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ เพื่อจัดทำฐานภาษี ทำให้พระราชธรรมสุธีไม่สามารถออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวได้
พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เผยว่า
ได้รับรายงานเรื่องพระบรมธาตุเจดีย์ทรุดเอียง จากตำรวจสายตรวจที่รับผิดชอบในเขตดังกล่าวแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทราบว่ามีชาวบ้านจำนวนมาก ที่หวาดหวั่นเกรงว่าองค์พระบรมธาตุเจดีย์จะพังลงมา จากแรงสั่นสะเทือนของรถบรรทุกวัตถุมงคลที่เข้าไปในวัด
อย่างไรก็ตาม
ในเขตวัด อำนาจต่างๆอยู่ที่เจ้าอาวาส แต่ทางวัดจะนิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ ต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้โดย เร็ว ก่อนที่จะมีปัญหามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบเรื่องที่ชาวบ้านกำลังรวมตัวเพื่อจะประท้วงเรื่องนี้ เพื่อไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลาย
บ่ายวันเดียวกัน ที่กลางพระวิหารวัดมหาวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน
ได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกองค์จตุคามรามเทพ และกดพิมพ์นำฤกษ์จตุคามรามเทพ ที่จัดสร้างโดยเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา นำรายได้บูรณปฏิสังขรณ์และบุทอง พระพุทธมงคลมหาราช พระพุทธรูปปางประจำพระชนมวารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นพระพุทธรูปประจำนครหาดใหญ่
โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดลำพูน
เป็นประธานจุดเทียนชัยในพิธี มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังรวม 9 รูปร่วมพิธี อาทิ ครูบาอินตา ธนักขันโธ อายุ 101 ปี วัดวังทอง ครูบาอินทร วัดสันป่ายางหลวง พระปิฎกคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน พระครูพิศาลธรรมนิเทศก์ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน ลำพูน เป็นต้น
ขณะที่มีพิธีพุทธาภิเษกในพระวิหารวัดมหาวันอยู่นั้น
เมื่อเวลา 14.12 น. ได้เกิดเหตุมหัศจรรย์ปรากฏขึ้น คือ ได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติพระอาทิตย์ทรงกลด พร้อมบริวารอีก 4 ดวงสวยงามมาก บนท้องฟ้าภายในบริเวณวัดมหาวัน สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้ที่พบเห็นและร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เกิดอากาศมืดครึ้ม ลักษณะคล้ายฝนจะตก และเกิดแดดออกสลับกันอยู่ครู่หนึ่ง บางคนถึงกับตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ที่ได้พบเห็น
โดยเฉพาะ นายเถกิงศักดิ์ พัฒโน อดีต ผวจ.ลำพูน
ที่ได้อยู่ร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย โดยพระอาทิตย์ทรงกลดอยู่นานร่วม 5 นาที ซึ่งการเกิดเหตุปรากฏการณ์ธรรมชาติในครั้งนี้ได้มีช่างภาพหลายคนได้ร่วมกันจับภาพไว้ได้โดยตลอด ส่วนช่างภาพที่สามารถจับภาพได้สวยงามมากกว่าเพื่อนในครั้งนี้ คือนายทำนุ รัตนันต์ อายุ 72 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้
สำหรับพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้มีพิธี อยู่ 2 รุ่นพร้อมกัน
คือรุ่นจ้าวเศรษฐี ศรีวิชัย และรุ่นจ้าวทองคำ ธรรมจักร โดยใช้มวลสารผสม น้ำพระพุทธมนต์ และเทวมนต์จากหลายพิธีและสถานที่ อาทิ ว่าน 108 จากเขาตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา ที่ใช้ว่านสร้างหลวงปู่ทวดรุ่น 2497 และว่านจากวัดเขาหลัก จ.นครศรีธรรมราช มวลสารพิเศษอาจารย์นอง ธัมมภูโต อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว จ.ปัตตานี มวลสารจากสังเวชนียสถานประเทศอินเดีย กากยายักษ์ จากตำบลลำพญา อ.เมือง จ.ยะลา ปลุกเสกมวลสาร
ในสถานที่ 5 แห่ง อาทิ
วัดทรายขาว จ.ปัตตานี วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราชพระวิหารหลวงวัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช และที่ประเทศเขมร โดยเจ้าจังหวัดเสียมราฐ และเกจิอาจารย์ จากประเทศไทย เป็นต้น สำหรับยอดในการจัดสร้างครั้งนี้ทั้งหมดจำนวน 29,999 องค์ เป็นเนื้อผงและเนื้อศิลาดล