นายอรุณให้การว่า หลานสาวเพิ่งจะท้องลูกคนแรก และสามีก็เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ หลานสาวได้ฝากท้องพิเศษไว้กับคลินิกแห่งหนึ่ง ต่อมาหมอได้อัลตราซาวด์ดูทารกในครรภ์ แจ้งว่าทารกเป็นเพศหญิง แข็งแรงดี แต่ตัวใหญ่ หลานสาวก็ไม่ได้ถามหมอว่าจะให้คลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด เพราะได้ฝากพิเศษกับหมอแล้ว หมอคงจะพิจารณาทำคลอดให้เอง และคงจะมีความปลอดภัยสูง
ช่วงบ่ายวันที่ 30 ส.ค. หลานสาวเจ็บท้องจะคลอดลูก จึงได้รีบพากันนำส่งโรงพยาบาลและเข้าห้องเตรียมคลอด พยาบาลจึงได้โทรแจ้งไปยังคุณหมอที่รับเรื่องฝากท้องไว้ แต่หมอก็ยังไม่ได้มาในทันทีรออยู่นานกว่าหมอจะมา จนเวลา 02.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค. หลานสาวได้เข้าห้องคลอด แต่เพราะทารกมีขนาดใหญ่ แพทย์ได้ใช้เครื่องดูดช่วยคลอด จนศีรษะเด็กโผล่ออกมา แต่เพราะทารกตัวใหญ่ ไหล่และลำตัวติด ไม่สามารถออกมาได้ จนในที่สุดเด็กก็เสียชีวิตขณะทำคลอด หมอที่ทำคลอดได้ออกมาแจ้งว่า ทารกน้ำหนัก 4,300 กรัม แต่เสียชีวิต เพราะคลอดออกมาไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจเลือกเอาชีวิตแม่ไว้
ตนและหลานจึงพากันมาแจ้งตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของทารก อยากถามว่าเมื่อคนไข้ฝากพิเศษกับหมอแล้ว ทำไมจึงไม่ใส่ใจ และเมื่อรู้ว่าทารกตัวใหญ่ทำไมไม่ผ่าคลอด เพื่อให้แม่และลูกรอดปลอดภัยด้วยกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามติดต่อหมอทำคลอดและที่รับฝากท้องมาเจรจาสอบถามถึงสาเหตุ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้และที่คลินิกก็ได้ปิดไป จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับส่งศพทารกส่งไปแผนกนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป