อ.เจษฎา มองอีกมุมเหตุบึ้มราชประสงค์ พบแต่ในตะวันออกกลาง

อ.เจษฎา มองอีกมุมเหตุบึ้มราชประสงค์ พบแต่ในตะวันออกกลาง

"อ.เจษฎา" นักวิทย์ชื่อดัง กับเหตุบึ้มศาลพระพรหรมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เขย่าขวัญคนกรุงฯ  ตั้งข้อสังเกตุใช้ "ทีเอ็นที" เป็นดินระเบิด และ "บอล แบริ่ง" เป็นสะเก็ด ที่ไม่เคยปรากฎใช้ก่อเหตุในไทย ชี้ส่วนมากพบในตะวันออกกลาง

สืบเนื่องจากเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ 17 สิงหาคม 2558 และล่าสุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 รายแล้ว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดวันนี้ (18 ส.ค.58)  ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีเขย่าขวัญคนกรุงฯครั้งนี้ บนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Jessada Denduangboripant" ว่า "ติดตามข่าวระเบิดศาลพระพรหมทั้งคืนอย่างเศร้าใจ ... ยิ่งเคยติดตามข่าวระเบิดภาคใต้เรื่อยๆ ยิ่งเศร้าใจหนัก .... แถมบนเฟซก็มีแต่ด่ากันไปกันมาระหว่างสีต่างๆ ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนทำ ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะความเกลียดชังไม่ถูกปลุกปั่นมาจนฝังลึกแล้ว ย่อมมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู เป็นคนทำ โดยไม่ต้องมีหลักฐานอะไร"


ผมสนใจข่าวนี้มากกว่า ที่เริ่มวิเคราะห์ด้วยหลักฐานทางวัตถุระเบิดทางพิสูจน์หลักฐาน ลองอ่านกันดูครับ ... ถ้าเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติจริง เรากำลังเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา

จากข่าว สนข.อิสรา 

จากการตรวจสอบกับบุคคลในหน่วยงานความมั่นคงทั้งระดับสูงและระดับหัวหน้าผู้ปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดมีตัวตนและยังปฏิบัติหน้าที่อยู่จริง พบข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำแถลงของรัฐบาลดังนี้

1.จุดเกิดเหตุระเบิด ไม่ว่าจะมี 1 หรือ 2 จุด และไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์บอมบ์ หรือระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ริมรั้วศาลพระพรหมก็ตาม ประเด็นที่สำคัญกว่านั้น คือ รูปแบบของระเบิดและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ
เจ้าหน้าที่จากหน่วยทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ระบุว่า ดินระเบิดหลักที่คนร้ายใช้ เป็น "ทีเอ็นที" น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 ปอนด์ ขณะนี้ยังไม่พบตัวจุดระเบิด ขณะที่สะเก็ดระเบิดเป็นลูกปืนรถขนาด 2 หุน หรือที่เรียกว่า "บอล แบริ่ง"

2.การใช้ "ทีเอ็นที" เป็นดินระเบิด และใช้ "บอล แบริ่ง" เป็นสะเก็ด ยังไม่เคยปรากฏใช้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในประเทศไทยเลย โดยมากพบในตะวันออกกลาง

3.ทีเอ็นที และ "บอล แบริ่ง" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเสื้อของมือระเบิดพลีชีพ ซึ่งเคยพบในตะวันออกกลางเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องชันสูตรศพในที่เกิดเหตุให้ชัดเจน โดยเฉพาะศพที่ชิ้นส่วนร่างกายแหลกเหลว ว่าใส่เสื้อระเบิดพลีชีพหรือไม่

4.ก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยเป็นกลุ่มที่ต่อสู้กับพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง ซึ่งทางการไทยยังติดตามจับกุมไม่ได้ มีโอกาสหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเที่ยวนี้

5.บริเวณที่เกิดเหตุระเบิดเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อทางศาสนา (ศาลพระพรหม) น่าจะเป็นความจงใจของกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงน่าถอดรหัสในส่วนนี้ต่อ

6.บริเวณที่เกิดเหตุมีผู้คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเหตุระเบิดก็ทำให้ชาวจีนเสียชีวิตหลายคน ขณะที่ทางการไทยเพิ่งตัดสินใจส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์กว่า 100 ชีวิตไปให้รัฐบาลจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการคัดค้านของรัฐบาลตุรกี (ที่เสนอตัวรับมุสลิมอุยกูร์กลุ่มนี้ไปตั้งถิ่นฐาน) และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก

ทั้งนี้เพราะชาวอุยกูร์จากมณฑลซินเจียงถูกทางการจีนกดดันอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มหัวรุนแรงที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและสถาปนารัฐใหม่ ขณะที่รัฐบาลจีนก็พยายามเชื่อมโยงกลุ่มดังกล่าวเข้ากับขบวนการก่อการร้ายสากล และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการ

อ่านแล้วก็อย่าพึ่งเชื่ออะไรตอนนี้นะครับ รับฟัง คิดวิเคราะห์ โดยไม่ตื่นตระหนกครับ

ที่มา FB Jessada Denduangboripant

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์