พศจ.นนทบุรียันวัดบัวขวัญ ไม่ทอดทิ้งอดีตเจ้าอาวาส

จากการที่ตนได้ตรวจสอบกุฏิของหลวงตาบุญช่วย แล้วพบว่า เป็นกุฏิทรงไทย2ชั้น หนึ่งหลังจะมีประมาณสิบห้อง แบ่งเป็นชั้นล่างชึ้นบน ขนาดของแต่ละห้องประมาณกว้าง3เมตร ยาว4เมตร เท่ากันทุกห้อง แม้แต่ห้องหลวงตาบุญช่วย ซึ่งเมื่อมาสอบถามหลวงตาบุญช่วย ด้วยตนเอง ก็ได้รับการยืนยันว่า เป็นเจตนาของท่านที่อยู่แบบนี้เอง ท่านเป็นพระสมถะ ไม่ชอบยุ่งกับใคร โดยกุฏินี้ ท่านเลือกมาอยู่เอง แล้วท่านก็ได้ต่อเติมจากประตูห้องของท่าน มาติดจนถึงบันได แต่พอผ่านประตูเล็กตรงบันไดเข้าไป ก็จะเจอประตูห้องใหญ่ ซึ่งห้องข้าง ๆ พระอีกรูปก็ต่อในลักษณะเดียวกันนี้

 นายบุญเชิด กล่าวต่อไปว่า แม้แต่เรื่องบิณฑบาต ลูกศิษย์จะมาช่วยหลวงตาบุญช่วย ท่านอยากช่วยเหลือตัวเอง ท่านไม่ชอบรับการช่วยเหลือจากใคร ชอบอยู่แบบธรรมดาสมถะ ซึ่งเมื่อมีการนำเสนอภาพข่าวออกไปเช่นนี้ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า วัดไม่ได้ดูแล และปล่อยทอดทิ้งหลวงตาบุญช่วย จึงอยากทำความเข้าใจให้ประชาชนได้เข้าใจด้วยว่า ทางเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้ดูแล พร้อมกับเคารพอดีตเจ้าอาวาสเป็นอย่างดี สำหรับเรื่องของที่ดินของท่านนั้น 

เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ที่ของท่านยังอยู่ แต่มีหมู่บ้านมาขอซื้อ ท่านก็ไม่ขายจนทางหมู่บ้าน ซื้อที่โดยรอบล้อมที่ของท่านไว้ จนที่ของท่านกลายเป็นที่ตาบอด เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน จึงเสนอแนวทางแก่หลวงตาบุญช่วยว่า จะขอซื้อทางกับหมู่บ้าน เพื่อจะทำเป็นวัดบัวขวัญ2ตามเจตนารมณ์ของหลวงตาบุญช่วย แต่หลวงตาบุญช่วยก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ ดังนั้น ตนจึงเสนอที่จะไปช่วยตรวจสอบข้อมูลเรื่องที่ของท่านให้ ส่วนกรณีที่ท่านถูกปลดจากการเป็นเจ้าอาวาสนั้น เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาเกือบ20ปีแล้ว ทางตนก็ไม่ทราบที่มาที่ไป ซึ่งเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ จึงไม่อยากไปพาดพิงกรณีดังกล่าว แต่ทางตนจะช่วยดูเรื่องที่ที่หลวงตาบุญช่วย ที่ท่านระบุว่า มีบางส่วนหายไป เพื่อให้หลวงตาบุญช่วยเกิดความสบายใจ.