อันตราย!!!หมอ เตือนเก็บเห็ดป่ามากินหน้าฝน พิษถึงตาย

ระวัง!!! "หมอ" เตือนหน้าฝนเห็ดป่าชุม แต่ไม่รู้จักแล้วเก็บมากินอาจถึงตาย ชี้ความร้อนทำลายพิษได้ไม่หมด หากพบผู้ป่วยต้องรีบทำให้อาเจียน แล้วส่งรพ.ด่วน พบภาคอีสานผู้ป่วยเยอะสุด

วันนี้ (31 ก.ค.) นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีเห็ดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ทั้งชนิดที่กินได้และชนิดที่กินไม่ได้ แต่ยังมีประชาชนบางพื้นที่เข้าใจผิด และเก็บเห็ดพิษมากิน โดยเชื่อว่าการนำเห็ดมาต้มกับข้าวสาร หรือต้มกับช้อนเงิน หรือปรุงด้วยความร้อนสูง เช่น แกง ต้ม จะทำลายพิษเห็ดได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะความร้อนไม่สามารถทำลายสารพิษในเห็ดพิษทุกชนิดได้ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 17 ก.ค.2558 พบผู้ป่วยแล้ว 337 ราย จาก 38 จังหวัด เสียชีวิต 1 ราย ที่จ.ตาก ซึ่งภาคอีสานมีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด รองลงมาคือภาคเหนือ ส่วนอาการผู้ที่กินเห็ดพิษไป จะเกิดหลังกินแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายโรคอาหารเป็นพิษ คือคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ ถ้าได้รับพิษมาก อาจทำให้ตับไตวายได้ ดังนั้น ทางกระทรวงฯ ได้สั่งให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ซักประวัติผู้ป่วยที่มีอาการอาหารเป็นพิษทุกราย อย่างละอียด เพื่อให้การรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เห็ดพิษที่เป็นสาเหตุการป่วยนั้น ส่วนใหญ่เป็นเห็ดระโงกหินที่ขึ้นในภาคอีสานและภาคเหนือ โดยช่วงดอกอ่อนหรือเห็ดที่ยังตูมอยู่ จะแยกจากเห็ดที่กินได้ยากมาก และสารในเห็ดพิษจะทนต่อความร้อน นอกจากนี้ยังมีเห็ดพิษรุนแรงอีกหลายชนิด อาทิ เห็ดเมือกไครเหลือง และเห็ดหมวกจีนที่มีลักษณะคล้ายเห็ดโคนขนาดเล็ก ดังนั้น เห็ดที่มีปลอกหุ้มโคน มีโคนอวบใหญ่ เห็ดที่มีหมวกเห็ดสีขาว มีวงแหวนใต้หมวก หรือเห็ดที่มีปุ่มปม จึงเป็นเห็ดที่ไม่ควรเก็บมาบริโภค และไม่ควรกินเห็ดพร้อมกับดื่มสุราเด็ดขาด เพราะจะทำให้พิษกระจายเร็ว หากพบผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ ให้รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาให้มากที่สุดเพื่อขับพิษออกจากร่างกาย แล้วนำส่งโรงพยาบาลทันที พร้อมนำตัวอย่างเห็ดพิษไปให้แพทย์ด้วย หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่โทรศัพ์สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422