หนุ่มขายก๋วยเตี๋ยวอารมณ์ติสท์ พลิกนิยามมือบอนเป็นเพจดัง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ หนุ่มขายก๋วยเตี๋ยวอารมณ์ติสท์ พลิกนิยามมือบอนเป็นเพจดัง
หากใครขึ้นชื่อว่า "มือบอน" แล้ว เชื่อว่า คนๆนั้น อาจไม่มีใครอยากพบเจอ เพราะเผลอๆ พวกมือบอน อาจนำความเดือดร้อนมาให้เราแบบไม่รู้ตัว
แต่ถ้า 'เพจมือบอน' ที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ เหตุใดไม่มีคนเบือนหน้าหนี ยิ่งไปกว่านั้นกลับมีคนเข้ามากดไลน์อย่างมากมาย ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน
เขามีดีอะไร แนวหน้าออนไลน์ขอตามไปเจาะให้เห็นกันจะจะ
“ความคิดสร้างสรรค์” ดูเหมือนจะเป็นคำพูดแรก ที่ได้ยินจากปากของชายหนุ่มเมืองกรุงเก่าวัย 24 ปี นามว่า “บิ๊ก” หรือ คามิน ตรีตระกูลกิจ เจ้าของ “เพจมือบอน” ราวกับว่ามันคือหัวใจหลักในการขับเคลื่อน 'เพจ' ให้เดินไปข้างหน้า
แม้ต้องเหนื่อยกับการทำงานประจำคือ ทำกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวของที่บ้าน มีหน้าที่เป็นนักปรุงมือฉมังแล้ว แต่ด้วยความที่มีใจรักงานทางด้านศิลปะ โดยเฉพาะ'ลายเส้น' ซึ่งได้ร่ำเรียนจากคณะดิจิตอลอาร์ต สาขาคอมพิวเตอร์อาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต จึงมีความคิดเสนอผลงานให้เป็นรูปธรรม ให้ผู้คนในโลกออนไลน์ได้พักสายตา หันมาชมศิลปะเพื่อคลายเครียด ผ่านลายเส้นตามหน้าหนังสือพิมพ์
จึงถือว่าเป็นจุดกำเนิดของ 'เพจมือบอน'
ทันทีที่ผลงานปรากฎตัวลงในโลกออนไลน์ กรรมการชาวโชเชียล ต่างเทใจให้ดังเป็นพลุแตก ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งสามารถกวาดยอดไลค์ไปมากกว่า 9,8000 คน
คามิน เผยว่า ที่ร้านจำเป็นต้องรับหนังสือพิมพ์ทุกเช้า ทำให้เมื่อถึงเวลาร้านปิด หนังสือพิมพ์ก็จะเหลือทิ้งเลยลองวาดดู จากนั้นจึงถ่ายรูปนำไปแบ่งปันในกลุ่มนักวาดภาพ ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนักวาดภาพประกอบเล่น” กระทั่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี จนมีการแนะนำให้สร้างเพจนี้ขึ้นมา
“มือบอน เป็นชื่อแรกที่คิดขึ้นมา เนื่องจากคนที่จะทำแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นเด็กมือบอนมันถึงจะทำได้”
คามิน กล่าวต่อว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจเปิดเพจนี้ขึ้นมา เนื่องจากอยากเห็นผลงานคนอื่นด้วย ถ้าหากเราเอาไปลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวของเราเอง คนอื่นอาจจะส่งผลงานให้เราไม่ได้ เราอยากดูไอเดียคนอื่นด้วย ซึ่งพอเปิดเพจมาเราก็ได้ลงผลงานของเรา และได้รับผลงานคนอื่นด้วย บางคนก็ส่งไอเดียมา แล้วให้เราวาดก็มี
การเลือกภาพนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ภาพข่าวกีฬา เนื่องจากมีการออกท่าทางเยอะ โดยจะเลือกภาพที่ถูกใจ ส่วนภาพข่าวบันเทิง และการเมืองนั้น จะไม่เข้าไปแตะโดยเด็ดขาด เพราะกลัวมีปัญหาตามมา
“ยอมรับว่าทุกวันนี้ก็กลัวมีปัญหาเหมือนกัน เพราะบางทีโพสต์ลงเพจไปแล้ว บุคคลที่อยู่ในภาพข่าวนั้นเข้ามาเห็น แต่ยังโชคดีที่เขาชอบผลงานเรา ซึ่งที่ผ่านมายังดีที่ไม่มีคนโวยวายมาก เพราะเราไม่ได้ตั้งใจทำให้เสียหาย เราเอาคาแรกเตอร์ในหนังมาวาด มันยังดีกว่าไปทำให้เสียหาย เขาคงไม่ชอบ” คามินกล่าวย้ำกับแนวหน้าออนไลน์
ทั้งนี้ตัวละครที่นิยมนำมาวาดนั้น คามิน บอกว่า ในช่วงแรกจะเป็นตัวละครที่ตนเองชื่นชอบก่อน อย่าง แฮรี่พอตเตอร์ และ ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน แต่พอหลังๆ ก็หันมาวาดตัวละครจากภาพยนต์ใหม่ๆ ที่กำลังเป็นกระแส นอกจากตัวละครตามภาพยนตร์แล้ว ตนยังมีโปรเจคในการวาดรูปตามเทศกาลต่างๆ ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย
ภาพแรกที่ทำให้เกิดเพจมือบอน
สิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาติดตามเพจมือบอนนั้น ตนคิดว่า อาจเป็นเพราะความคิดสร้างสรรค์ อย่างเราเวลามองภาพข่าว เราอาจไม่ได้สนใจว่าภาพนั้นเป็นข่าวอะไร แต่เรากลับเห็นแอ็คชั่นของบุคคลต่างๆ ในภาพนั้นว่า มันสามารถทำอะไรได้บ้าง คนน่าจะชอบในจุดนี้มากกว่า เหมือนเป็นการเซอร์ไพรส์
“ส่วนตัวไม่คิดว่าเพจจะมาจนถึงทุกวันนี้ ยอมรับว่าตกใจตั้งแต่จำนวนคนกดไลค์ในเพจประมาณ เจ็ดถึงแปดพันไลค์ เราตั้งใจให้มันเป็นเพจศิลปะ ไม่ได้เป็นเพจลงเรื่องตลกทั่วไป เราลงผลงานเรา ซึ่งคนที่อยู่ในกลุ่มนักวาดรูป เขาก็ทำเพจเหมือนกัน เขาก็ยังชื่นชมเพจเราว่า ได้เผยแพร่ผลงานตัวเอง และยังมีคนชื่นชอบขนาดนี้” คามิน กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
สำหรับพวกที่มีฝีมือแต่กลับไปโชว์ผิดที่นั้น ตนคิดว่า เขาขาดโอกาสมากกว่า เพราะพวกนั้นมีฝีมือแต่กลับไม่มีที่ให้พวกเขาแสดง ตนอยากให้แต่ละจังหวัดหาที่จัดสำหรับงานพวกนี้ ซึ่งที่ไหนว่างๆ ก็อาจจะจัดเป็นนิทรรศการเอาผลงานมาโชว์กัน เช่นพวกที่ชอบเพ้นท์สี อาจจะหาตึกที่ไม่ได้ใช้ พอหมดไปงานหนึ่ง ก็ทาสีทับ แล้วมาสร้างผลงานกันใหม่ในโอกาสหน้า อยากให้สนับสนุนตรงนี้ ตนเชื่อว่าแต่ละจังหวัดต้องมีกลุ่มคนที่ชอบงานศิลปะอยู่แล้ว
แม้จะเรียนทางด้านศิลปะ และชื่นชอบในการวาดรูปตั้งแต่เด็ก แต่เจ้าตัวยังไม่มีความคิดที่จะเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ แต่เขากลับต้องการเป็นวิทยากร หรือเข้าไปในชั่วโมงสอนศิลปะของแต่ละโรงเรียน เพื่อปลูกฝังเด็กเรื่องความคิดสร้างสรรค์
“เคยมีคนเข้ามาทักในเพจบอกว่า ลูกเขาอยู่ๆ ก็มาอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งๆ ที่ไม่เคยอ่าน พอเขาถาม ลูกก็บอกว่า จะมาหารูปและส่งมาให้ที่เพจ เราก็โอเคนะ เด็กมันได้ดูรูป และก็ยังได้อ่านข่าวอีกด้วย ก็รู้สึกดีใจ มันก็เป็นผลพลอยได้ บางทีเด็กมันชอบวาดรูปในหนังสือเรียน เรายังเป็นเลยพอเวลาวาดเสร็จก็กลับมาดูผลงานตัวเอง เด็กก็เหมือนกัน ก็อาจเปิดหนังสือเรียนมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังได้อ่านผ่านตา ซึ่งในที่นี้เราต้องเน้นด้วยว่า ควรวาดในหนังสือของตัวเอง อย่าไปวาดหนังสือตามห้องสมุด อันนี้เราก็ไม่แนะนำ มันไม่ดี”
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คนมองเห็นเรื่องจินตนาการเป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็จินตนาการของเราได้อ่านหนังสือด้วย อย่างเช่นของตน จินตนาการมันยังได้อยู่ในหนังสือเรียน หนังสือพิมพ์ มันยังได้ความรู้ บางคนบอกว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ตนว่ามันไม่จริง ตนคิดว่าจินตนาการมันอยู่คู่กับความรู้ ที่คนมันจินตนาการเพราะมันมองไม่เห็น เราถึงเรียกว่าจินตนาการ เวลาเราไม่รู้ก็ต้องค้นหา มันเป็นสิ่งเดียวกัน มันอยู่ด้วยกันได้ อยากให้เด็กไทยมีจินตนาการมากขึ้น แล้วมันจะได้ใช้ความรู้มากขึ้น
“นิยามคำว่ามือบอนสำหรับตนคือ มันต้องสร้างสรรค์แล้วถูกต้อง ถูกที่ ถูกทางด้วย ถ้ามันทำให้คนอื่นเดือดร้อน ตนคิดว่ามันไม่ได้เรียกว่ามือบอน” คามินกล่าวทิ้งท้าย