ฝากขังพ.ต.อ. เชิดรถเต็นท์ แฉวีออสที่ขับมาก็มีพิรุธ

ผู้กำกับเชิดซีวิคไฮบริดคอตกเข้าเรือนจำนอนคุก หลังศาลตลิงชันยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบพนักงานสอบสวนค้านการปล่อยตัวชัวคราว หากอนุญาตเชื่อว่าจะหลบหนี เผยวันเกิดเหตุ ชุดจับกุมยังยึดรถเก๋งวีออส ที่ พ.ต.อ.หลานบิ๊กทหารขับเข้ามาในโรงแรมเวียงใต้ด้วย เบื้องต้นตรวจสอบประวัติรถไม่ได้ เพราะเลขตัวถังกับเลขเครื่องไม่ตรงกัน ซ้ำเจ้าตัวยังไม่สามารถอธิบายที่มาที่ไปรถได้

กรณี พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผกก.ฝ่ายบริหารการศึกษา ศฝร.ภ.4 หลานชาย พล.อ.ศัลย์ ศรีเพ็ญ อดีตรอง ผบ.ทบ.ทำทีซื้อรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด สีขาว ทะเบียน 3 กว 7405 กรุงเทพมหานคร โดยขอลองขับรถก่อนใช้สเปรย์ดับกลิ่นกายแบบกระป๋องฉีดใส่หน้าพนักงานขาย ก่อนขับรถหลบหนี เหตุเกิดที่เต็นท์รถมือสองของบริษัท สยามคาร์ การ์เด้นท์ จำกัด ย่านตลิ่งชัน ต่อมาตำรวจตามจับกุม พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ขณะตามช่างกุญแจมาเปิดประตูรถที่จอด อยู่ในลานจอดรถโรงแรมเวียงใต้ ถนนข้าวสาร เขตพระนคร เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราว และนัดหมายมาพบที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันในวันจันทร์ที่ 27 ก.ค. ขณะที่ ผบช.ภ.4 สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ก.ค.ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้นัด พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผกก.ฝ่ายบริการการศึกษา ตำรวจภูธรภาค 4 ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ เดินทางมาพบ ก่อนขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดย พ.ต.อ.พันธุ์ศิริมาถึงศาลตั้งแต่เช้ามืด ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พยายามเอามือปิดหน้าตลอดเวลาที่ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ และไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปในคำร้องฝากขังว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 24 ก.ค. 58 มีคนร้ายแต่งตัวภูมิฐาน สวมแว่นตากันแดดสีชาเข้ม สวมวิกผม นั่งรถแท็กซี่มาที่บริษัทสยามคาร์การ์เด้นท์ จำกัด ตั้งอยู่หัวมุมถนนบรมราชชนนี พร้อมสอบถามหารถยนต์มือสอง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นปี 2011 เป็นต้นไป โดยนายดนุพัฒน์ ขจีกานต์นนท์ พนักงานขายแนะนำรถฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ราคา 649,000 บาท ของ น.ส.นราพร ตันตราชีวธร ผู้เสียหาย โดยรถคันดังกล่าว ใช้ระบบเปิด-ปิดเครื่องยนต์ที่ปุ่ม ENGINE START แทนการใช้กุญแจ ผู้ต้องหาได้ขอทดลองขับรถคันดังกล่าว พนักงานขายหยิบกุญแจรีโมตอัจฉริยะมาวางบริเวณคอนโซลใกล้เบรกมือ และสังเกตเห็นผู้ต้องหามีพิรุธ กระเป๋าถือไม่ได้รูดซิป จึงระวังตัวตลอดเพราะสงสัยว่าภายในกระเป๋าอาจจะมีอาวุธปืน

คำร้องระบุต่อว่า หลังจากผู้ต้องหาขับรถวนในลานบริษัทได้หนึ่งรอบ ได้ใช้มือหยิบกระเป๋าที่ไม่ได้รูดซิปที่วางอยู่ข้างตัว แล้วฉีดสเปรย์ใส่หน้านายดนุพัฒน์ จนต้องใช้มือปัดป้องและหยิบรีโมตอัจฉริยะ เปิดประตูกระโดดหนีลงจากรถ ส่วนคนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนี นายดนุพัฒน์ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองตลอดจนผู้มีอาชีพทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะว่า หากมีผู้ใดแจ้งทำรีโมตกุญแจอัจฉริยะรถยนต์รุ่นดังกล่าวให้แจ้งผู้เสียหายทราบด้วย ต่อมาผู้เสียหายทราบว่า มีผู้ติดต่อทำกุญแจรีโมตอัจฉริยะรถยนต์รุ่นเดียวกับผู้เสียหาย โดยรถยนต์ถูกนำไปจอดที่ชั้น 3B โรงแรมเวียงใต้ ถนนข้าวสาร ได้แจ้งตำรวจไปตรวจสอบ พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ โดยมีการสวมป้ายทะเบียนด้านหน้าและด้านหลัง ฎพ 3299 กรุงเทพมหานคร แทนป้ายทะเบียนเดิม อีกทั้งยังพบผู้ต้องหาอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึด และนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่า มีคนนัดนำรถมาให้ที่ลานจอดรถดังกล่าว การกระทำของผู้ต้องหาเป็นประมวลความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคหนึ่ง เหตุเกิดที่แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วเกรงว่าจะหลบหนี

ต่อมาญาติของ พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 150,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนค้านการปล่อยชั่วคราว หากอนุญาตเชื่อว่าจะหลบหนี ให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป

มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในวันจับกุม ชุดสืบสวนได้ยึดรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน ญค 7504 กรุงเทพมหานคร ที่ พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ขับเข้ามาพร้อมช่างทำกุญแจ เพื่อเปิดประตูรถของกลางที่จอดอยู่ในโรงแรมเวียงใต้ จากการตรวจสอบรถเก๋งที่ พ.ต.อ.พันธุ์ศิริขับเข้ามาเบื้องต้นพบว่า เป็นรถที่ไม่สามารถตรวจสอบประวัติได้ เลขตัวถังกับเลขเครื่องไม่ตรงกัน และเจ้าตัวไม่สามารถอธิบายถึงที่มาที่ไปของรถได้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถคันดังกล่าว พร้อมประสานโรงพักทั่วประเทศว่า รถคันดังกล่าวมีการแจ้งหายไว้ที่ใดหรือไม่ และถ้าเป็นรถหนีไฟแนนซ์ ให้บริษัทที่เสียหายนำหลักฐานมาติดต่อได้ที่ ศปจร.น.