เปมิกา ฟ้อง ประกิตเผ่า หมิ่นฯสัมภาษณ์ให้ร้ายผ่านสื่อ

เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2550 จำเลยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2550 มีข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ว่า แม่และภรรยาของตน ให้สัมภาษณ์สื่อล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น พอโรคเริ่มทุเลา สติก็คืนมา รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก หัวหน้ากลุ่มและพวกเขามีความรู้สูง น่าจะใช้ในทางที่ถูกต้อง ให้เป็นคนดีในสังคม..ทำให้รู้ว่ามีคนพวกหนึ่ง ที่ยอมทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ โดยไม่แคร์ถึงผลที่จะเกิดขึ้นต่อทรัพย์สิน และชีวิตของผู้อื่น ไม่ว่าคนที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิเท่าใด ลองมาเจอกลุ่มคนที่มีเป้าหมายยาวนานหลายปี และมีความตั้งใจสูง ร่วมกันใช้ยา และจิตวิทยาหมู่ อย่างที่ผมโดน ผมว่าก็พลาดได้อย่างที่ผมเป็น

ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระบุว่า ตนเริ่มถูกกระบวนการทำให้หลง ในช่วงเดือน ต.ค.49 ปกติเป็นคนชอบนั่งสมาธิ โดยจะนั่งทุกคืนนานเป็นชั่วโมง แต่มีคนแนะนำว่า สมาธิ ที่เรานั่งถึงขั้นไหนแล้ว เราได้ยินเสียงเห็นภาพต่างๆ ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นแค่จินตนาการเท่านั้น ซึ่งหากโดนมา 4-5เดือน ไม่ว่าใครก็เป๋ หากถูกกระทำด้วยจิตวิทยาหมู่ก็หลงได้คนกลุ่มนี้จะร่วมนั่งสมาธิด้วย และจะบอกตนในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนไปเฝ้าพระพรหม พระพุทธเจ้า ซึ่ง 4-5 คน บอกเหมือนกัน ทำให้เกิดจิตวิทยาหมู่ขึ้น ซึ่งไม่ธรรมดา อีกทั้งบางอย่างพิสูจน์ไม่ได้ จึงไม่กล้าลบหลู่ ส่วนที่มีข่าวว่า ตนหย่ากับภรรยาในความเป็นจริงตนรักภรรยามาก แต่มีคำสั่งจากร่างทรง หากตนไม่หย่าจะทำให้ครอบครัว ทมทิตชงค์พินาศ

การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวจำเลยทราบดีว่า คำว่า หัวหน้ากลุ่ม คนอีกพวกหนึ่ง คนที่มีบุคลิกคล้ายร่างทรง และ คนกลุ่มนี้

หมายถึงโจทก์ เนื่องจากขณะนั้น โจทก์มีข้อพิพาทกับ มารดา ภรรยา และพี่ชายของจำเลย ในเรื่องคดีความ การกระทำของจำเลยเป็นการใส่ความโจทก์ มีเจตนาให้บุคคลที่รับฟังการแถลงข่าว และผู้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว เข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นคนใช้จิตวิทยาหลอกลวงเอาทรัพย์สินของจำเลย มอมยาเสพติด และคดโกง ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และเสียชื่อเสียง

นายอภิชาติ ทนายความของ น.ส.เปมิกา กล่าวว่า การฟ้องครั้งนี้ เนื่องจากโจทก์ต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืน หลังถูกอีกฝ่ายหนึ่งดูหมิ่นเหยียดหยาม โดย น.ส.เปมิกา รู้สึกเสียใจและผิดหวังกับคำพูดของ นพ.ประกิตเผ่า จึงนำคดีมาฟ้องร้อง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์จะมีพยานขึ้นเบิกความประกอบด้วย น.ส.เปมิกา และพ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์