บีบน้ำตาขมาแม่หลาน

ลุงเขยปล่อยโฮกราบขอขมาแม่หลาน 11 ขวบ


เหยื่อหื่นข่มขืนจนท้อง ตำรวจคุมตัวเจาะเลือดตรวจเทียบดีเอ็นเอ แม่ไม่เชื่อลูกสาวสกิดลุง เชื่อถูกปลุกปล้ำใช้กำลังบังคับ ผู้การฯ ปดส. ระบุ รอสอบผู้เสียหาย และ ผลตรวจดีเอ็นเอที่จะทราบภายใน 7 วัน แล้วจะสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาฟ้องผู้ต้องหาโดยเร็ว

จากกรณีที่ นางนิด (นามสมมติ) นำ ด.ญ.แก้ว (นามสมมติ) วัย 11 ปี

นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ฝากพี่สาวเลี้ยงดูอยู่ที่ย่านสาธุประดิษฐ์ เข้าขอความช่วยเหลือกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เนื่องจาก ด.ญ.แก้ว ถูกเดนมนุษย์ข่มขืนจนตั้งครรภ์อย่างไม่รู้ตัว

โดย นางปวีณา ได้นำ ด.ญงแก้ว ไปคลอดบุตรที่ รพ.ยันฮี

พร้อมกับพาเข้าแจ้งความกับ บก.ปดส. เพื่อให้สืบสวนติดตามจับกุมไอ้หื่นที่ข่มขืนด.ญ.แก้ว จนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง สามารถจับกุมตัว นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ลุงเขยของด.ญ.แก้ว มาสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่า เคยล่วงละเมิดทางเพศหลานสาว 1 ครั้ง จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีที่ บก.ปดส. ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น

ที่ บก.ปดส. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มิ.ย.


พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าหลังจากสามารถจับกุม นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ลุงเขยที่ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.แก้ว หลานสาววัย 11 ขวบ จนตั้งครรภ์คลอดลูก

โดยก่อนแถลงข่าว

นายฉลาด ผู้ต้องหา ได้ยกมือกราบลงบนโต๊ะขอขมาต่อ นางนิด มารดาของ ด.ญ.แก้ว ต่อหน้า พล.ต.ต.วิมล นางปวีณา และบรรดาผู้สื่อข่าว-ช่างภาพที่มาทำข่าว นางนิด ยอมรับคำขอขมาจากนายฉลาด

พร้อมกับเปิดเผยว่า

หลานชายที่เกิดจากลูกสาวเชื่อว่าเป็นลูกของนายฉลาด แต่คงต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยัน สำหรับ ด.ญ.แก้ว ลูกสาวตนเป้นคนเรียบร้อยไม่เคยมีความประพฤติเสียหาย ตนไม่เชื่อว่าจะสกิดลุงเขยตามที่นายฉลาดให้การ น่าจะเป็นการใช้กำลังบังคับมากกว่า ตนขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ได้นำ นายฉลาด เดินทางไป รพ.รมามธิบดี เพื่อเจาะเลือดเอาไว้เป้นตัวอย่างในการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับลูกชายของ ด.ญ.แก้ว ซึ่งต้องใชเวลา 7 วัน จึงจะทราบผล

นางปวีณา หงสกุล กล่าวว่า

ขณะนี้ ด.ญ.แก้ว ยังรักษาตัวใน รพ.ยันฮี แพทย์ผู้ให้การรักษาแจ้งว่าอาการของ ด.ญ.แก้ว ดีขึ้นเป็นลำดับ และสภาพจิตใจก็ดีขึ้นกว่าตอนแรก หลังจากนี้หากเด็กหญิงผู้เสียหายมีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมเมื่อไร พนักงานสอบสวน บก.ปดส.จะนำมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วน พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า

สำนวนการสอบสวนคดีนี้เกือบสมบูรณ์แล้ว ขาดเพียงการสอบสวนผู้เสียหาย และหลักฐานการตรวจทางวิทยาศาสตร์ คือการเปรียบเทียบดีเอ็นเอ แต่คงใช้เวลาไม่นานน่าจะทราบผล นอกจากนั้นยังต้องสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาประกอบสำนวนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนจะสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลต่อไป




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์