ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ไปถึง “น้องนิว” ทั้งร้องไห้และโผวิ่งเข้ากอดนายเจ๊ก คิดอ่าน และนางอรทิน บุตรพันธ์ พ่อและแม่
และเมื่อเห็นสภาพบ้านเจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ถึงกับสลด เพราะไม่ต่างจากเล้าหมู ไม่มีรั้ว ประตู ผนัง พื้นบ้านเป็นดิน ใช้สังกะสีผุพังมุงหลังคา และใช้ผ้าใบล้อมไว้เพื่อกันแดดและฝน นอกจากนี้ยังไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ต้องอาศัยพ่วงมาจากเพื่อนบ้าน โดยคณะได้นำข้าวสารและมอบทุนส่วนหนึ่งให้กับครอบครัว
นายเจ๊ก กล่าวว่า ตอนที่หมอบอกว่า “น้องนิว” เป็นดาวน์ซินโดรมก็เสียใจ
แต่ก็ดีใจที่ยังมีลูกและตั้งใจจะเลี้ยงอย่างดีที่สุด แต่มาเกิดปัญหาเพราะญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านไม่ต้อนรับลูกสาว จึงตัดสินใจพาครอบครัวหนีออกจากหมู่บ้านไปอยู่บนเขาเดิ่น ในเขตเทือกเขาภูพาน ใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำ หาของป่าขาย และพาลูกสาวไปหาหมอเป็นประจำ กระทั่งสถานีอนามัยแนะนำให้เอาลูกสาวไปสมัครเรียนที่โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล ตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 และย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังปัจจุบัน
“สภาพบ้านทั้งในป่าและหลังปัจจุบันไม่แตกต่างกันนัก จะลำบากตอนลมแรง ฝนตก ต้องหาที่หลบ ยิ่งเวลากลางคืนไม่ต้องนอนกันเลย โดยผมยึดอาชีพปั่นซาเล้งขายเนื้อหมูตามหมู่บ้าน เดือนๆหนึ่งมีรายได้ราว 2,000 บาท เวลาปิดเทอมน้องนิว จะไปช่วยขายด้วย” นายเจ๊ก กล่าว
ด้าน นายสันติ กล่าวว่า ครอบครัว “น้องนิว” มีฐานะยากจนมาก แม่ได้รับอุบัติเหตุที่หลัง ประกอบอาชีพไม่ได้ ส่วนพ่อมีอาชีพฆ่าหมูและนำเนื้อหมูแบ่งขายในหมู่บ้าน ซึ่งภาพที่ทุกๆคนในหมู่บ้านเห็นชินตา คือ ภาพของ 2 พ่อลูกนั่งซาเล้งขายหมู ขณะที่น้องนิวจะเรียกลูกค้าช่วยพ่อด้วย
“น้องนิว เป็นเด็กดี มีจิตอาสาช่วยเหลือครูและเพื่อนทำงานที่โรงเรียนทุกอย่าง เป็นคนรักสะอาด คณะครูอยากจะให้น้องนิวมีบ้านที่เป็นบ้านจริงๆ รวมถึงอยากได้ทุนประกอบอาชีพของพ่อแม่ หวังว่าผู้มีจิตศรัทธาจะเข้ามาช่วยเหลือน้องนิว เพราะครอบครัวนี้ลำบากมากจริงๆ” นายสันติ กล่าว
ส่วนนางสมคิด กล่าวว่า น้องนิวมีความบกพร่องทางสติปัญญา จะพูดไม่เป็นประโยค แต่มีพัฒนาการที่ดี ช่วยพ่อแม่หารายได้
ถือเป็นเรื่องดีที่น่าจะให้เป็นต้นแบบ แต่สภาพความเป็นอยู่ของเด็กต้องมีความปลอดภัยมากกว่านี้ ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาที่จะช่วยเหลือครอบครัว “น้องนิว” ติดต่อได้ที่โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล และคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ หรือที่สำนักงาน พม.กาฬสินธุ์
วันเดียวกัน พล.ต.จักรชัย โมกขะสมิต ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ จ.ราชบุรี
พร้อมด้วยนายเริงศักดิ์ เจริญผล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี นำข้าวสาร สิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ไปมอบให้นางจันทนา กุยเชียง อายุ 73 ปี ที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 2 ต.บางป่า หลังได้รับทราบว่าอาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆ ผุพัง เนื่องจากถูกลมพายุพัดพังจนได้รับความเสียหายทั้งหลังไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนต้องได้นำสังกะสีและไม้เก่ามาสร้างเป็นเพิงด้วยตัวเอง ทั้งๆร่างกายมีสภาพโค้งงอ เข้าสู่วัยชรา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายศรีสุริยวงศ์ กว่า 20 นาย ยังเข้ารื้อถอนบ้านของนางจันทนา และเตรียมสร้างให้ใหม่ในวันที่ 24 กรกฏาคมนี้ สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยเหลือนางจันทนา ผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร สาขาราชบุรี เลขที่บัญชี 020048029315
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
