"น้องไนซ์" โพสต์เฟชซ้ำ แจงไม่ได้ป่วย เป็นปกติทุกอย่าง ชี้ ส่งกระดาษเปล่า ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ยอมทำกิจกรรมเวียนเทียน ดีกว่ามานั่งฝืนใจทำข้อสอบ
วันนี้ ( 23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นส.ณัฐนันท์ วรินทรเวช หรือ "น้องไนซ์" นักเรียนชั้น ม.6 และเลขาธิการกลุ่ม "การศึกษาเพื่อความเป็นไท" ซึ่งเคยถูกเชิญออกจากรายการโทรทัศน์ หลังสอบถามนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ว่าการเข้าสู่อำนาจโดยมิชอบ ถือเป็นการคอร์รัปชั่นหรือไม่? ได้โพสต์ในเฟชบุ๊คส่วนตัว ประกาศอารยะขัดขืน คสช.ขึ้นครองอำนาจ ด้วยวิธีการส่งกระดาษเปล่าวิชา "หน้าที่พลเมือง" อ้างรับไม่ได้ผู้นำขาดจริยธรรม แต่ดันบัญญัติค่านิยม 12 ประการขึ้นมาเพื่อกะเกณฑ์ศีลธรรมของสังคม
ล่าสุด น.ส.ณัฐนันท์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยแปลข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ปรากฏว่ามีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ผู้บริหารโรงเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า ได้มอบให้ฝ่ายกิจการนักเรียนไปดูแลแล้ว สิ่งที่เด็กแสดงออกเป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโรงเรียน ทางฝ่ายครูประจำชั้นและฝ่ายปกครองจะเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยทำความเข้าใจ โรงเรียนดูแลและให้ความเข้าใจเด็กเต็มที่ เพราะต้องเข้าใจว่าเด็กยังมีประสบการณ์น้อย ยืนยันจะไม่มีการลงโทษเด็ดขาด การวัดผลมีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสอบ อาจเรียกมาสัมภาษณ์ ให้เด็กแสดงความคิดเห็นเพื่อดูพัฒนาการทางความคิด ถ้าให้ความร่วมมือยืนยันได้ว่าเด็กคนนี้จะจบหลักสูตร ม.6 แน่นอน
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า ได้เชิญ น.ส.ณัฐนันท์มาสอบถามเหตุผลถึงการส่งกระดาษเปล่าวิชาหน้าที่พลเมือง ซึ่งเด็กให้เหตุผล เหมือนในเฟซบุ๊ก ได้บอกเด็กไปว่าข้อสอบอัตนัยที่เด็กส่งกระดาษเปล่าต้องได้ศูนย์คะแนน และต้องดูคะแนนรวม ถ้าคะแนนรวมไม่ผ่านก็ต้องซ่อมเสริม นอกจากนี้รู้สึกห่วงใยความปลอดภัยของเด็กเพราะหลังจากเด็กโพสต์ เห็นมีทั้งคนที่เห็นด้วยและคนที่เข้าไปด่ารุนแรง เด็กก็บอกว่ายอมรับกับผลที่เกิดขึ้นทั้งบวกและลบเตรียมใจไว้แล้ว ส่วนของการซ่อมเสริม เด็กก็บอกว่าพร้อมให้ความร่วมมือ
"เด็กมีความเชื่อมั่นสูง มีความเป็นตัวของตัวเอง ผมได้ติดตามตั้งแต่มีการแสดงความเห็นเรื่องค่านิยม 12 ประการลงโพสต์เฟซบุ๊กจนมาถึงเรื่องนี้ มองว่าการแสดงความเห็นของเด็กยังอยู่ในกรอบการแสดงความคิดเห็นที่เป็นตัวของตัวเอง ยังไม่เกิดความเสียหาย เพียงแต่การส่งกระดาษเปล่ามองว่าเกิดความเสียหายกับตัวเด็กเอง เสียดายโอกาสซึ่งเด็กคนนี้เป็นเด็กเรียนดี จึงอยากให้แยกแยะ หน้าที่นักเรียนคือการทำข้อสอบเพื่อวัดผลในสิ่งที่เรียนมา ก็อยากให้ทำหน้าที่ของตัวเอง มากกว่าจะใช้สิ่งอื่นมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่จะไม่ทำข้อสอบ อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับครูผู้สอน ปรากฏว่าครูผู้สอนบอกว่าจะใช้วิธีวัดผลแทนข้อสอบอัตนัยข้อนี้โดยจะให้เด็กไปฝึกปฏิบัติหน้าที่พลเมืองแทน 2 อย่าง คือ ทำหน้าที่ทำนุบำรุงวัดและเป็นตัวแทนเพื่อนนักเรียนกล่าวสุนทรพจน์เรื่องหน้าที่พลเมือง โดยทั่วไปการซ่อมเสริมจะได้คะแนนอย่างมากก็กึ่งหนึ่งของคะแนนเต็มในข้อนั้น แต่หากเด็กตั้งใจ มีพัฒนาการทางความคิดและปรับปรุงพฤติกรรมซึ่งเป็นไปตามตัวชี้วัด ก็เป็นดุลพินิจของครูผู้สอนที่จะให้คะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของข้อสอบข้อนั้นก็ได้ ทั้งนี้การซ่อมเสริมด้วยการทำกิจกรรมทั้ง 2 ข้อดังกล่าว เด็กยินดีที่จะให้ความร่วมมือ" รองผู้อำนวยการคนเดิมกล่าว
น.ส.ณัฐนันท์ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ป่วย เป็นปกติทุกอย่าง และที่ผ่านมาพ่อแม่ไม่เคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลโรคจิตและไม่เคยกินยารักษาโรคด้วย การกล่าวหาว่าป่วยเป็นการหมิ่นประมาท การส่งกระดาษเปล่าวิชาหน้าที่พลเมืองไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่เป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว และที่แปลเป็นภาษาอังกฤษโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กนั้น ก็เป็นการแปลด้วยตนเอง ไม่ใช่คนอื่นแปลให้ ฉะนั้นใครที่คิดว่ามีคนแปลให้ก็ขอให้คิดใหม่ เพราะภาษาอังกฤษของตนดี ตนสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ม.3 ก็ได้ 100 คะแนนเต็มมาแล้ว ส่วนโอเน็ต ม.6 ยังไม่ได้สอบ
น.ส.ณัฐนันท์กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ส่งกระดาษเปล่าวิชาหน้าที่พลเมืองนั้น ชี้แจงว่าภาพรวมของวิชานี้ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ก่อนเข้าสอบก็ลังเลว่าจะใช้ชีวิตนักเรียน ม.6 ปกติ หรือจะแสดงอารยะขัดขืนไม่ทำข้อสอบดี เพราะส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าหวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัยเช่นกัน ตอนแรกลังเลว่าจะทำหรือไม่ทำข้อสอบ แต่เมื่อเห็นคำถาม "คิดว่าการกระทำข้อใดที่สนับสนุนและส่งเสริมความเป็นไทย" โดยมีช้อยส์ข้อหนึ่งคือ การลงชื่อสนับสนุนการปล่อยตัวนักศึกษาที่มุ่งโจมตีและบ่อนทำลายความเป็นไทย ข้อสอบปรนัยข้อนี้เป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะอารยะขัดขืนด้วยการไม่ส่งกระดาษคำตอบทั้งแผ่น ซึ่งมีทั้งข้อสอบปรนัยและอัตนัย คะแนนรวม 30 คะแนน เพราะช้อยส์ข้อนี้เป็นคำตอบของคำถามนี้ ขณะที่ขัดแย้งกับความเชื่อของตนที่สนับสนุนให้มีการปล่อยตัวนักศึกษา อย่างไรก็ตามวันนี้ได้พูดคุยกับอาจารย์ผู้สอนแล้วตกลงกันว่าให้ไปทำกิจกรรมอื่นแทนการทำข้อสอบดังกล่าว เดิมพูดคุยกันว่าทำกิจกรรมทางพุทธศาสนากับการกล่าว สุนทรพจน์ สุดท้ายก็ตกลงกับอาจารย์ว่า ให้ทำกิจกรรมเวียนเทียนแทนซึ่งเป็นกิจกรรมของโรงเรียนที่ทำร่วมกับเพื่อนนักเรียนในวันที่ 28 กรกฎาคม ตนยอมรับกิจกรรมนี้เพราะไม่ขัดความเชื่อและตนก็สนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาอยู่แล้ว
"ก่อนโพสต์ทางเฟซบุ๊กก็คิดอยู่ว่าจะต้องมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และฝ่ายไม่เห็นด้วยอาจจะวิจารณ์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งได้ทำใจยอมรับล่วงหน้าอยู่แล้ว และส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าหวั่นเรื่องความปลอดภัยอยู่เหมือนกัน แต่คาดหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับดิฉัน ทั้งนี้การวิจารณ์ด้วยถ้อยคำยังรับได้ แต่ถ้ามีการทำร้ายก็ถือว่าไม่ชอบธรรม รับไม่ได้" น.ส.ณัฐนันท์กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
