เพิ่มงบหิ้วของผ่านสนามบินเป็น2หมื่น ขาช็อปตีปีก-จัดหนักได้เยอะขึ้น!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เพิ่มงบหิ้วของผ่านสนามบินเป็น2หมื่น ขาช็อปตีปีก-จัดหนักได้เยอะขึ้น!
กรมศุลฯแก้ไขระเบียบยกเว้นภาษีสิ่งของส่วนตัวของผู้เดินทางเข้าประเทศ จาก 10,000 บาท เป็น 20,000 บาท เพื่อความเหมาะสม และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินในปัจจุบัน มีผลตั้งแต่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเหล้า-บุหรี่ยังใช้ระเบียบเดิม บุหรี่ได้ 1 แคตตอน เหล้าไม่เกิน 1 ลิตร
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่ากรมศุลฯ ปรับเพิ่มวงเงินของส่วนตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย
ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากเดิม 10,000 บาท เป็น 20,000 บาท เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินในปัจจุบัน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ประสบกับปัญหาของที่นำของส่วนตัวเข้ามามีมูลค่าเกินกว่าที่ได้รับยกเว้นอากร ซึ่งการเพิ่มวงเงินครั้งนี้ จะทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
“การปรับเพิ่มวงเงินของการยกเว้นอากรของส่วนตัวที่ผู้เดินทางจากต่างประเทศนำเข้ามาในประเทศไทยจากเดิม 10,000 บาท เป็น 20,000 บาท จะเท่ากับกรณีผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดอากรขาเข้า (ดิวตี้ ฟรี) ที่ตั้งอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 20,000 บาท”
อย่างไรก็ตามแต่หากเป็นบุหรี่ หรือซิการ์ หรือยาเส้น ซึ่งเป็นของส่วนตัวที่ผู้เดินทางนำเข้ามาพร้อมกับตนเอง ให้ได้รับยกเว้นอากรต่อเมื่อบุหรี่มีปริมาณไม่เกิน 200 มวน ซิการ์ หรือยาเส้น อย่างละไม่เกิน 250 กรัม หรือหลายชนิดรวมกันมีน้ำหนักทั้งหมดไม่เกิน 250 กรัม ส่วนสุราต้องมีปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร
นายสมชัย กล่าวอีกว่า กรณีมีของที่ต้องสำแดงแต่หลีกเลี่ยงไม่สำแดง ขณะผ่านจุดตรวจไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม เมื่อตรวจพบจะถือเป็นความผิดปรับ 4 เท่าของมูลค่าของบวกค่าอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และของที่มีการตรวจพบความผิดจะถูกริบเป็นของแผ่นดิน
ปัจจุบันกรมศุลกากรได้จัดให้มีช่องสำหรับปฏิบัติพิธีการศุลกากรแก่ผู้โดยสารขาเข้าไว้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องตรวจเขียว สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีของต้องเสียภาษีอากร
โดยของส่วนตัวที่นำเข้ามามีมูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 20,000 บาท และช่องตรวจแดง ผู้โดยสารที่มีของต้องเสียภาษีอากรหรือไม่แน่ใจว่าต้องเสียภาษี โดยกรมศุลฯเน้นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ไม่ตรวจสัมภาระของผู้โดยสารทุกคน เพราะจะสุ่มตรวจตามหลักปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากล