ผู้เสียหายแห่ร้อง ปอท.เจอสาวแสบอ้างเป็นหลานนักการเมืองชื่อดังหลอกร่วมลงทุนขายสินค้าความงาม สูญเงินกว่า 6 แสนบาท
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ บก.ปอท. ศูนย์ราชการอาคารบี น.ส.บุณฑริก ศรีบุญเรื่อง อายุ 25 ปี แอดมินเพจเฟซบุ๊กกลุ่มศัลยกรรมความงามและโปรโมชั่นราคาทุนพร้อมด้วย น.ส.กุลริศา จิรภัคคากร อายุ 38 ปี และน.ส.จิมลลักษณ์ ธนเตชาวรันต์ อายุ 36 ปีและผู้เสียหายอีกประมาณ 20 ราย เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ทศพร ศรีสัจจา พงส.บก.ปอท.หลังซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ผ่านเฟซบุ๊กของ น.ส.สุพิชญา จำปา อ้างตัวว่าเป็นหลานของนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท
น.ส.บุณฑริก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจาก น.ส.สุพิชญา จำปา โดยในเฟซบุ๊ก น.ส.สุพิชญา ได้ใช้นามสกุลเดียวกับนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่ง และได้เชิญชวนให้ร่วมทำธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามจึงสนใจ และได้ทำการตกลงทำธุรกิจร่วมกัน แบ่งรายได้คนละครึ่ง
ทั้งนี้น.ส.สุพิชญา อ้างว่าเป็นหลานสาวของนักการเมืองชื่อดัง ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ลูกค้าจะสั่งสินค้าผ่านตนและโอนเงินไปยังบัญชี น.ส.สุพิชญา จำปา ซึ่งนามสกุลไม่ตรงกับที่ปรากฏบนเฟซบุ๊ก ภายหลังทราบว่าลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามที่ตกลงไว้ จึงติดต่อไปยังน.ส.สุพิชญา แต่ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด มีเพียงการขึ้นสเตตัสเฟซบุ๊กว่า จะไปบวชเป็นเวลา 3 วัน และได้โอนเงิน จำนวน 63,000บาท คืนมาให้ตน พร้อมบอกว่าเป็นผลกำไร จึงนำเงินจำนวนนี้แบ่งคืนให้กับผู้เสียหายบางส่วน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของน.ส.สุพิชญา
น.ส.บุณฑริก กล่าวอีกว่า น.ส.สุพิชญา อ้างว่า นำสินค้าเข้าเองจากอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ จึงมีราคาที่ค่อนข้างถูก และยังมีหุ้นส่วนกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง อีกทั้งเปิดคลินิกอยู่ที่สุขุมวิท 49 จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ เชื่อว่ามีการวางแผนทำเป็นกระบวนการ เพราะ น.ส.สุพิชญามีการเปลี่ยนนามสกุลถึง4 ครั้ง มีการถ่ายโอนเงินต่างบัญชี
ด้าน พ.ต.ต. ทศพร กล่าวว่า สอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนออกหมายเรียกน.ส.สุพิชญา มาสอบสวน พร้อมตรวจสอบบัญชีการโอนเงินต่อไป