ตร.ไทยทำหลักฐาน DNA คดีเกาะเต่า ‘หายหมดแล้ว’!!
บีบีซี สื่อยักษ์ใหญ่อังกฤษ ประโคมข่าวทั่วโลก ตำรวจไทยทำหลักฐานสำคัญ ดีเอ็นเอในคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ‘หายหมดแล้ว’ เหลือเพียงเอกสารผลการตรวจสอบดีเอ็นเอของ 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาแสดงต่อศาลเท่านั้น
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 58 สำนักข่าวบีบีซี รายงานข่าวไปทั่วโลกว่า หลักฐานสำคัญ DNA (ดีเอ็นเอ) ในคดี น.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่า อ.พะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หายหมดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเผยกับนักข่าวบีบีซีว่า หลักฐานสำคัญในคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษไม่สามารถมีการตรวจสอบได้อีก เนื่องจากไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
บีบีซี ระบุว่า ดีเอ็นเอ ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการฟ้องร้องดำเนินคดีชาวเมียนมา 2 คน ในข้อหาร่วมกันฆาตกรรม นายเดวิด มิลเลอร์ ชายหนุ่มชาวอังกฤษอายุ 24 ปี จากเมืองเจอร์ซีย์ และ น.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ วัย 23 ปี จากเมืองนอร์ฟอล์ก
โดยที่ผ่านมา จำเลยชาวเมียนมาทั้งสองคน คือ นายเวพิว หรือวิน อายุ 21 ปี และนายซอลิน หรือโซเลน อายุ 21 ปี ต้องการให้มีการตรวจสอบผลดีเอ็นเอของพวกเขาใหม่ ขณะที่ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งคู่ได้ปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้เป็นฆาตกร ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่า ข่มขืน และปล้นชิงทรัพย์ตามข้อกล่าวหา ในระหว่างการนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนัดสืบพยานโจทก์เป็นวันที่สอง
บีบีซี รายงานด้วยว่า ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าว กำลังมีการตัดสินใจว่า หลักฐานดีเอ็นเอของนายเวพิว และนายซอลินนั้นผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระหรือไม่ ขณะที่ตำรวจไทยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบและเก็บดีเอ็นเอของสองผู้ต้องหาชาวเมียนมา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ของโรงพยาบาลตำรวจ โดยดีเอ็นเอ ของนายเวพิว และนายซอลิน ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในร่างของ น.ส. วิทเธอร์ริดจ์
จากคำเปิดเผยของ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ซึ่งนำทีมสอบสวนในตอนแรก กล่าวกับนักข่าวบีบีซีว่า ตัวอย่างดีเอ็นเอบางส่วนได้ถูกใช้ไปแล้ว ขณะที่เส้นผมที่พบในมือของ น.ส.วิทเธอร์ริดจ์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐานในคดีนี้ก็หายไป โดย พ.ต.ท.สมศักดิ์์ยังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยสามารถเสนอหลักฐานต่อศาล เป็นเอกสารผลการตรวจสอบดีเอ็นเอเท่านั้น ‘ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว เมื่อพวกเราได้มีการตรวจสอบดีเอ็นเอในตอนแรก’ พ.ต.ท.สมศักดิ์กล่าว
ด้าน โจนาห์ ฟิเชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเมียนมา ซึ่งเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ยังรายงานว่า หลักฐานดีเอ็นเอนั้น ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่สุดในคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและสับสน และตอนนี้ หลักฐานดีเอ็นเอไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างอิสระได้อีกต่อไป
นักข่าวบีบีซียังชี้ว่า จากการที่ดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้ได้หายไปถือเป็นการสนับสนุนข้อโต้แย้งของกลุ่มคนที่เชื่อว่า ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งสองคนถูกใส่ร้ายโดยเจ้าหน้าที่ทางการไทย
บีบีซี รายงานด้วยว่า นายซอลิน และนายเวพิว ชาวเมียนมา อายุ 22 ปีเท่ากัน ได้ถูกตำรวจไทยจับกุมในอีกหลายสัปดาห์ต่อมา หลัง น.ส.ฮานนา วิทเธอร์ริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ ถูกฆาตกรรมจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 โดยตอนแรก ชาวเมียนมาทั้งสองให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยว่าได้ร่วมกันฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ก่อนที่ต่อมา จะกลับคำให้การ โดยยืนยันว่าพวกเขาทั้งคู่บริสุทธิ์ ไม่ได้ร่วมกันก่อคดีฆาตกรรมตามข้อกล่าวหา ขณะที่ทนายความของสองจำเลยชาวเมียนมายังระบุว่า ลูกความของตนถูกใส่ความ พร้อมกันนั้น บีบีซียังระบุทิ้งท้ายว่า คำตัดสินในคดีนี้คาดว่าจะไม่เกิดขึ้นจนกระทั่งถึงเดือนตุลาคมปีนี้