โดยนายรอดนีย์เผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเรื่องน่าอายมาก เพราะเขาไม่สามารถใช้งานอวัยวะเพศของตัวเองได้อีกแล้ว ระหว่างที่ถูกขังเดี่ยวในเรือนจำทัณฑสถานแมนฮัตตัน เมื่อปี 2008 โดยผลข้างเคียงที่เขาได้รับผลจากการกินยาหลายขนาน เพื่อบำบัดอาการหอบหืด โรคหัวใจ และอื่น ๆ รวมทั้งยา "Risperdal" เพื่อบำบัดอาการหดหู่และอาการไบโพลาร์ ก็คือ ยาเหล่านี้ทำให้เขาเกิดอาการอวัยวะเพศแข็งตัวยาวนานจนเจ็บปวดทรมานอย่างมาก และทำให้มันเดินไม่ได้เลย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานและแพทย์ปฎิเสธจะรักษาเขาตั้งแต่แรก บอกว่า อาการของเขาไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ทำให้เขาพยายามร้องเรียนหลายครั้ง โดยตลอดช่วงดังกล่าวเขาต้องใส่แต่กางเกงบ็อกเซอร์ ไม่สามารถใส่กางเกงยีนส์ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้เขาเดินในสภาพทรมานเช่นนี้เป็นเวลาเกือบสัปดาห์
ก่อนที่ต่อมาเขาได้รับการรักษาจากแพทย์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ปี 2011 เมื่อถูกส่งไปยังห้องผ่าตัดฉุกเฉินของโรงพยาบาลเบลเลวิว ซึ่งมีการสวนท่อเข้าไปยังอวัยวะเพศของเขา ก่อนจะผ่าตัด และมีการเย็บแผลที่ฝังเข้าไปในหนังอวัยวะเพศของเขา จนต้องมีการดึงออกมาโดยไม่มีการใช้ยาสลบ และมันทำให้เขาเจ็บปวดถาวรกระทั่งปัจจุบัน และทำให้เขาไม่สามารถใช้งานอวัยวะเพศ เพราะเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกอึดอัดตลอดเวลา ขณะที่เจ้าตัวกล่าวว่า"ถ้าให้ผมเลือกได้ ผมจะเลือกเอาความเป็นชายกลับคืน มากกว่าจะอยากได้เงินชดเชยแน่นอน"
ทั้งนี้ คดีนี้ยังมีการฟ้องถึงแพทย์ที่ทำงานให้แก่บริษัท "โคริซอน" ซึ่งเป็นบริษัทไม่แสวงกำไร ด้านการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่เรือนจำของนครนิวยอร์ก และส่งผลให้เมืองนี้เลิกสัญญากับบริษัทหลังจากเจ้าหน้าที่รัฐและนักต่อสู้ด้านสาธารณสุขได้โจมตีบริษัทว่าให้การรักษาแก่นักโทษอย่างไม่เหมาะสมด้วย