ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมูเตอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน ฮร 8721 กทม. สภาพถูกรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาวแบบ 4 ประตู ชนติดอยู่ทางด้านคนขับ จนทำให้ด้านหน้ารถตู้พังยับ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน 6 ราย เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือ ท่ามกลางพายุฝนที่ตกหนัก โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกมาได้ก่อนนำส่งโรงพยาบาลคีรีรัฐนิคมเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้เสียชีวิตอีก 2 ราย
ทราบชื่อเบื้องต้นคือ น.อ.สาทิพ จินตนาวส (รน) รองเสธ.กองทัพไทย, น.อ.สกนธ์ ชัยวนนท์. (ร.น.) รองเสธ.กองทัพไทย, พ.จ.อ.รณภพ จันทร์ประเสริฐ พลขับฯ ,จ.อ.โสภณ ศรีพันลม และ จ.อ.ภราดร หนุนภักดี ประจำกองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนอีกรายชื่อ นายอดิศักดิ์ ขุนทองจันทร์ อายุ 18 ปี ชาว ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี บาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คณะของนายทหาร สังกัดกองทัพไทย นำโดย พล.ร.อ.ธนะรัตน์ อุบล (ร.น.) รองเสนาธิการกองทัพไทย ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และติดตามการปฎิบัติงานของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจตรวจเยี่ยมหน่วย ได้เดินทางไปเยี่ยมชมเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน โดยรถยนต์ตู้ในคณะจำนวน 3 คัน ขณะเกิดเหตุทั้งคณะกำลังเดินทาง มุ่งหน้า ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยคันเกิดเหตุขับเป็นคันที่ 2 ถึงที่เกิดเหตุซึ่งได้เกิดฝนตกหนัก ปรากฏว่าจู่ ๆ ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบ 4 ประตู ซึ่งวิ่งสวนทางกันเสียหลักข้ามเกาะกลางพุงชนอย่างจัง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายอดิศักดิ์ ขุนทองจันทร์ ผู้บาดเจ็บอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายอดิศักดิ์ ไว้เพื่อสอบสวนปากคำ และสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป