แห่ดูเหล็กประหลาดโผล่กลางชายหาดเกาะสมุย คาดอายุกว่า 100 ปี จนท.เคยขุด-ไม่สำเร็จ!!

หลังจากที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า พบซากเหล็กโบราณที่ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นได้มีคนเข้ามากดไลก์และแสดงความคิดเห็น ตั้งข้อสงสัยกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งที่บอกว่าเป็นซากเรือรบเก่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือ เป็นเสาเรือ หรือ ปล่องของหม้อต้มไอน้ำเรือ อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหล็กดังกล่าว

ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปที่ นายพิเชษฐ์ สุดเดือน ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย เดินทางไปตรวจสอบซากเหล็กดังกล่าว ที่บริเวณชายหาดบ้านใต้ ม.5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าซากเหล็กมีลักษณะเป็นวงกลมมีปุ่มตรงกลาง เหล็กมีความหนาประมาณ 2 เซนติเมตร วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 330 เซนติเมตร ถูกฝังอยู่ในทรายริมชายหาดมาเป็นระยะเวลานานมาก จนเป็นสนิมผุกร่อนจากน้ำทะเลกัดเซาะมานาน

สอบถามนายวิชชุ แข่งขัน อายุ 55 ปี ชาวบ้านที่อยู่ตรงจุดที่พบซากเหล็ก บอกว่า ตั้งแต่เกิดมา ก็พบซากเหล็กนี้แล้ว และในสมัยปู่ย่าก็เห็นว่ามีแล้ว คิดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เมื่อก่อนซากเหล็กยังมีลักษณะเป็นปล่องสูงประมาณ 3 เมตร แต่ปัจจุบันถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จนเหลือเท่าที่เห็น ซากเหล็กนี้คิดว่าน่าจะเป็นซากเรือที่มีความยาวขนานไปกับชายหาดที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นทราย ซึ่งมีการขุดมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อขุดไปแล้ว น้ำทะเลที่เข้ามามีลักษณะขุ่นจนไม่เห็นตัวเรือ และเมื่อใช้รถแบ็กโฮดันเรือ ก็ไม่มีการขยับเขยื้อน เพราะมีความแข็งมาก

ด้านนายพิเชษฐ์ สุดเดือน ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย กล่าวว่า จากการสำรวจในครั้งนี้ ได้สอบถามชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ ทราบว่าจากอดีตน่าจะเป็นเรือที่มาจมบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีอายุน่าจะมากกว่า 100 ปี ซึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว มีนายอำเภอในสมัยนั้นได้นำรถแบ็กโฮ 2 คัน มาขุดความลึกประมาณ 4 เมตร แต่ไม่สามารถกู้ซากเรือได้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการมาดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตามถ้าจะมีดำเนินการกู้ซากเรือก็คงต้องผ่านคณะกรรมการหรือเชิญผู้รู้มาศึกษาหาแนวทางวิธีการที่ดีที่สุด เพราะอาจจะเกี่ยวกับศาสนาหรือความเชื่อของพี่น้องประชาชนด้วย

อย่างไรก็ตามได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าว เข้ามาดูซากดังกล่าว และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเกาะสมุยได้อีกแห่งไปแล้ว