นอกจากนี้ พระมหาอภิชาติ ยังได้เล่าเท้าความถึงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556 ที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแท่งแบริเออร์และลวดหนามมาปิดทางเข้า-ออกวัดเบญฯ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่พระภิกษุสามเณรเป็นอย่างมาก
ระบุข้อความดังนี้
"เจริญพร โยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
ตามที่ท่านได้สั่งการให้เจ้าที่ตำรวจเอาแท่งแบริเออร์และลวดหนามมาปิดกันทางเข้าออกของวัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณรวัดเบญจมบพิตรเป็นอย่างมาก พระเณรในวัดไม่มีอาหารขบฉันเพราะออกไปบิณฑบาตไม่ได้ ญาติโยมก็เข้ามาทำบุญไม่ได้ พระเณรต้องประทังชีพด้วยอาหารแห้ง(มาม่า)และอาหารที่พอจะหาได้ตามมีตามเกิด
ทางวัดก็ได้เรียกร้องให้ท่านช่วยเปิดทางเข้า-ออกวัดอยู่นานมาก ท่านก็ไม่เคยสนใจและเหลียวแลทางวัดเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเอาแท่งแบริเออร์กั้นให้หนาแน่นขึ้นไปอีก การกระทำของท่านนั้นมันไร้มนุษย์ธรรม เกินที่คนธรรมดาเขาทำกัน มันสร้างความลำบากและสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับพระเณรในวัดยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนลูกน้องของท่านที่มากินนอนอยู่ในวัดเป็นแรมเดือนก็สร้างแต่ปัญหาให้กับทางวัด ไม่ว่าเรื่องทิ้งขยะ การตากผ้า กินเหล้า สูบบุหรี่ หนักสุดถึงขนาดข่มขู่และคุกคามพระเณรในวัด ซึ่งเป็นการกระทำที่เนรคุณวัดที่ให้ที่พักที่นอนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเมื่อท่านเป็นผู้สั่งการให้ปิดทางเข้าวัด ขังพระเณรอยู่ 2 เดือนเต็ม จนสร้างปัญหาให้พระเณรในวัดอย่างหนัก ตำรวจที่มาคุกคามพระก็เป็นลูกน้องของท่าน ตั้งแต่นี้ไปท่านอย่าได้เข้ามาเหยียบหรือเข้ามาภายในพื้นที่ของวัดเบญจมบพิตรอีกเลยไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เพราะสิ่งที่ท่านทำไว้กับวัดนั้นมันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของวัดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะมีการปฏิวัติหรือชุมนุมประท้วง ก็ยังไม่ปรากฏว่าใครกระทำความเลวร้ายให้วัดเบญจมบพิตรหนักเท่ากับท่านเลย หวังว่าท่านคงเข้าใจภาษาไทยและรู้เรื่อง"