ญี่ปุ่น คุมตัว คำรณวิทย์ ที่สนามบินนาริตะ หลังพบอาวุธปืน ขณะเตรียมบินกลับไทย

ญี่ปุ่น คุมตัว คำรณวิทย์ ที่สนามบินนาริตะ หลังพบอาวุธปืน ขณะเตรียมบินกลับไทย

วันที่ 23 มิถุนายน 2558 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่น ทำการควบคุมตัว กรณีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

ซึ่งในเบื้องต้น รายงานข่าวเปิดเผย ว่า พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ได้ให้การรับสารภาพกับตำรวจญี่ปุ่นว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง พร้อมแสดงเอกสารประจำตัวข้าราชการตำรวจ และเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนต่อเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น อีกทั้งยังระบุอีกว่า ไม่รู้ว่าตนลืมอาวุธปืนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าไปประสานในเรื่องการดำเนินคดีให้กับพลตำรวจโทคำรณวิทย์ แล้ว


อย่างไรก็ตามพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ ทีจี 640 เวลา 21.50 และถูกค้นพบอาวุธปืนได้ที่ ที่สนามบินนาริตะ ขณะจะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน 2558

มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธปืนดังกล่าว ผ่านการตรวจสแกนของประเทศไทย

 
ผ่านไปยังประเทศญี่ปุ่น รวมถึงยังท่องเที่ยวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ได้กว่า 3-4 วันก่อนจะเตรียมเดินทางกลับและตรวจพบอาวุธปืนดังกล่าวได้อย่างไรนั้น หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ด้าน พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกควบคุมตัวที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในกรณี มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง

ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด และสาเหตุที่พกพาปืน ส่วนจะพกพาปืนผ่านด่านตรวจของประเทศไทย หรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้
ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัดเสียก่อน จากนั้นจึงจะประสานว่าต้องการความช่วยเหลือด้านใดบ้าง

ต่อมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่า ได้รับแจ้งจากตำรวจญี่ปุ่นว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นจับกุมที่สนามบินนาริตะในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พยายามประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์


แต่ยอมรับว่าทางการไทยคงช่วยเหลืออะไรได้ไม่มาก เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ทำได้คือการรับรองว่าเคยเป็นนายตำรวจระดับสูงของไทย ขณะที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดบทลงโทษสำหรับความผิดลักษณะดังกล่าวไว้ค่อนข้างสูง คือจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่หากเหตุเกิดในมาเลเซียหรือสิงคโปร์ โทษสูงสุดอาจถึงขั้นประหารชีวิต

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าปืนกระบอกดังกล่าวผ่านเครื่องตรวจเอ็กซ์เรย์ที่สนามบิน ณ จุดใด

และเท่าที่ทราบปืนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พกพาไปนั้นเป็นปืนขนาดเล็กมากสามารถถือไว้ในฝ่ามือได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนพกรุ่นใด รวมทั้งไม่แน่ใจด้วยว่ามีใบอนุญาตพกปืนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่สนามบินญี่ปุ่น ว่าปืนดังกล่าว เป็นปืนแฟชั่นขนาดเล็ก ที่พกติดไว้ในกระเป๋าส่วนตัวมาเป็นเวลานาน จนลืมไปแล้ว เจ้าหน้าที่สนามบินจึงเข้าใจ และจะปล่ยอให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางกลับประเทศไทยได้ในคืนวันที่ 23 มิถุนายน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้เดินทางไปพร้อมกับคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อไปศึกษาดูงานโรงงานกำจัดขยะ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์