แฉรพ.ไล่คนไข้เสี่ยงเมอร์ส สธ.ฉุนขาด! ฮึ่มทำอีกโทษหนัก-ปิดทันที

 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสัมมนา ชี้แจงแนวทางการวินิจฉัย การเฝ้าระวังและการส่งต่อผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือเมอร์สในประเทศไทยให้กับบุคลากรแพทย์และสาธารณสุข และโรงพยาบาล คลินิก ในเขต กทม.และปริมณฑลว่า เพื่อให้เข้าใจถึงการเตรียมรับมือ เฝ้าระวัง การรักษา และส่งต่อผู้ป่วยที่ติดเชื้อเมอร์ส ขณะที่ตามต่างจังหวัดได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอบรมทำความเข้าใจ หากพบผู้ต้องสงสัย

นพ.บุญเรือง กล่าวว่า หากพบผู้ต้องสงสัยติดไวรัสเมอร์ส ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องนำส่งสถาบันบำราศนราดูรทุกราย บางรายสามารถรักษาได้ในโรงพยาบาลต้นทาง

 และถ้ามีความเสี่ยงสูงอาจจะต้องส่งมายังโรงพยาบาลรัฐเพื่อรักษาต่อไป ทั้งนี้ หากพบผู้มีอาการในเบื้องต้น ต้องโทร.รายงานสายด่วน 1422 ก่อน ว่าจะทำอย่างไร หากส่งต่อผู้ป่วยไปที่อื่นโดยพลการ หรือพบแล้วไม่แจ้งจะมีความผิด โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมโรค มีความผิดจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งปิดคลินิก สถานพยาบาลได้ทันที ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541

นพ.บุญเรือง กล่าวด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง ที่เมื่อทราบว่า ผู้ป่วยที่มารักษานั้นเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง กลับปฏิเสธไม่ให้ผู้ป่วยเข้ารับรักษา แต่เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สถาบันบำราศนราดูรแทน ซึ่งถือว่า ผิดหลักของสถานพยาบาลในเรื่องการส่งต่อและปฏิเสธผู้ป่วย โดยในเร็วๆ นี้จะมีการสุ่มตรวจสถานพยาบาลเอกชน และคลินิกเพื่อไม่ให้เกิดเคสนี้ซ้ำอีก