เฉลยเหตุ ชาวบ้านดู อีแย้ม-ข้าบดินทร์มากกว่า ตู่ คืนความสุข

รายงาน เฉลยเหตุชาวบ้านดู "อีแย้ม-ข้าบดินทร์"มากกว่า "ตู่ คืนความสุข"

มติชนสุดสัปดาห์ มิถุนายน 2558

หากจะพูดถึงละครที่ฮ็อตเเละฮิตสุดๆ ในช่วงครึ่งปีเเรกของปีนี้ คงต้องยกให้ "สุดเเค้นเเสนรัก" ละครพีเรียดดราม่าสุดเข้มข้นทางช่อง 3 ที่ลงจอให้คอละครได้ชมกันในช่วงปลายสัปดาห์ ทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ 18 เมษายน ที่ผ่านมานั้น

"สุดแค้นแสนรัก" เป็นบทประพันธ์จากนวนิยายโดยปลายปากกาของ "จุฬามณี" หรือ "นิพนธ์ เที่ยงธรรม" เรื่องราวความรักความเเค้นของสองบ้านระหว่าง "ยายอ่ำ" (แหม่ม จินตหรา) เเละ "ยายเเย้ม" (ต๊งเหน่ง รัดเกล้า) ที่เคยเป็นเพื่อนบ้าน เเต่วันหนึ่งมีเรื่องต้องผิดใจ เเม้ว่าต่อมาจะต้องเป็นทองเเผ่นเดียวกันก็ตาม จนนำมาสู่เรื่องราวความแค้นที่เกิดจากรุ่นแม่และตกทอดมายังรุ่นลูก อัมพร (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) และ อุไร (พรชิตา ณ สงขลา) โดยเฉพาะอุไร ที่มีเหตุให้ต้องฟาดฟันฝีปากกับยายแย้มบ่อยครั้ง

ละครเรื่องนี้ถือเป็นการรวมตัวกันของนักแสดงมากฝีมือไม่ว่าจะเป็นจินตหรา, โฬม พัชฏะ, มอส ปฏิภาณ, โดนัท มนัสนันท์, เบนซ์ พรชิตา, น็อต วรฤทธิ์, น้ำฝน กุณณัฏฐ์, บอย พิษณุ โดยเฉพาะบทของ "ยายเเย้ม" ชาวนาที่มีฐานะดี เเห่งทุ่งหนองนมวัว บุคคลที่ฝังเเน่นไปด้วยความโกรธเเค้นครอบครัวของอัมพรและอุไร เพราะพ่อของอัมพรฆ่าสามีของตน จึงมีจิตพยาบาทครอบครัวของอัมพร ถึงขั้นเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งทุกวันไป

ด้วยลักษณะนิสัยใจคอของยายแย้ม ที่เป็นคนชอบตำหนิ พูดจาโผงผาง เจ้าคิดเจ้าแค้น ปากร้ายใจคอโหดเหี้ยม ชอบพูดจาเหน็บแนมคน วางอำนาจและชอบดูถูกผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์ แต่ในอีกมุม จะรักและเอ็นดูเฉพาะลูกหลาน โดยเฉพาะ ยงยุทธ (เพื่อน คณิน) ลูกชายของอัมพรและประยงค์ (โฬม พัชฏะ) หลานชายที่รักมากกว่าใคร

ด้วยความร้ายที่ได้ใจเเฟนละคร เกิดเป็นกระเเสทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึง ทั้งในแง่ความอาฆาตและพยาบาทครอบครัวของอัมพร ได้อย่างสมจริง คำพูด สีหน้า แววตาและท่าทาง เรียกว่าเป็นการตีบทแตกอย่างแท้จริง

จุดนี้นี่เองที่เป็นที่ถูกใจของคนดู

ด้านกระแสในโลกออนไลน์ก็ดังกระหึ่มไม่เเพ้กัน

โดยเฉพาะกระทู้บทสนทนาในเว็บไซต์พันทิปดอตคอมที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดก็ไม่ปานหรือตามโซเชียลมีเดียอย่าง"เฟซบุ๊ก"และ"ทวิตเตอร์" ก็ยังมาแรงไม่แพ้

แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ก็ยังอยู่ในขออินเทรนด์ตามกระแสจากละครเรื่องนี้

มีพูดถึงตัวละคร "ยายแย้ม" ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ถามว่าเคยนั่งดูตัวเองออกรายการคืนความสุขให้คนในชาติบ้างหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ตู่ ก็ตอบว่า

"ดูอยู่ ก็รู้สึกเบื่อ จะไปดูแต่อีแย้มๆๆ ตายไปแล้ว เขาบอกว่าตอนนี้อีแย้มสู้นายกฯ ไม่ได้แล้ว ตายไปแล้ว แต่สิ่งที่พูดนั้นมีจุดสั่งหมาย พูดเพื่อให้เกิดมุมมองวิสัยทัศน์เพื่อพัฒนาในวันหน้า"

และอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังมาเเรงไม่เเพ้กันในตอนนี้ก็คือ "ข้าบดินทร์" ละครพีเรียดที่สร้างขึ้นมาจากนวนิยายไทยเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่3

ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ประเทศอังกฤษเข้ามามีบทบาททางการค้ากับประเทศไทย

ถ่ายทอดเรื่องราวของ"เหม" (เจมส์ มาร์) บุตรชายแห่งพระยาบริรักษ์ (ต้น จักรกฤษณ์) กับคุณหญิงชม (แหม่ม จินตหรา) แต่กลับถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้ต้องกลายมาเป็น "ตะพุ่นช้าง" เพราะถูกใส่ร้ายจากคนใกล้ตัว

การันตีความสนุกโดยผู้จัดมากฝีมือ "ณัฐนันท์ ฉวีวงษ์" จากค่ายทีวีซีน

ผลงานการกำกับฯ ของ "หนุ่ม อรรถพร ธีมากร" ที่ถูกหลายคนยกให้เป็นละครที่ไม่ควรพลาด

เพราะดีงามตั้งแต่บท การถ่ายทำ วิธีเล่าเรื่อง เสื้อผ้าหน้าผม โลเกชั่น ความรู้ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงนักแสดง

กับกระแสดราม่าเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะสมของคู่พระ-นาง ที่รับบทโดยพระเอกหนุ่มหน้าตี๋ "เจมส์ มาร์" ประกบคู่กับนางเอกสาว "เเมท ภีรนีย์" เป็นครั้งเเรก ถึงเรื่องหน้าตาที่ดูเป็นลูกครึ่ง ไม่เหมาะที่จะมาเล่นละครไทย จนมีเค้าว่าจะส่อแววแป้ก เนื่องจากความเเรงของสุดเเค้นเเสนรัก ที่ลาจอไปก่อนหน้านี้ทำเรตติ้งไว้ดีมาก

เเต่พอละครออนเเอร์ไปได้เพียงไม่กี่ตอน กลับเรียกเสียงชื่นชมจากเเฟนละครที่เคยสบประมาทไว้ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก

จนกลายมาเป็นละครที่โดนใจเเฟนคลับต่อจาก"สุดเเค้นเเสนรัก"อีกหนึ่งเรื่อง

แต่ทว่าการออนแอร์ของละครสุดฮ็อตสองเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่สร้างความอึดอัดให้กับ "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์เวลา20.15 น. ที่จะต้องมีรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ที่ท่านนายกฯ จะต้องออกมาพบปะกับประชาชน เพื่อบอกเล่าถึงปัญหาเเละเรื่องราวที่ผ่านไปในเเต่ละอาทิตย์

แต่การมาของสุดแค้นแสนรักและข้าบดินทร์ ดูท่าจะเป็นเรื่องที่สร้างความอึดอัดภายในใจให้กับนายกฯ ตู่ ไม่ใช่น้อยถึงขนาดออกปากในเชิงตัดพ้อในงานวันสิ่งเเวดล้อมโลกประจำปี2558 หลังเรตติ้งรายการคืนความสุขให้คนในชาติลดลง ว่า

"อยากให้ฟังที่ผมพูดบ้าง ไม่ใช่ดูเเค่ป้าเเย้มอย่างเดียว พอป้าเเย้มจบก็มีข้าบดินทร์ พอผมมาก็เปลี่ยนช่อง ทำไงดีต้องให้ผมไปเเสดงละครไหม จะได้ดูผมบ้าง และขอให้ทุกคนทำใจให้สะอาดเหมือนที่ผมพยายามทำทุกวัน แต่ก็มีขยะเข้ามาในใจให้หงุดหงิดตลอดเวลา ซึ่งการสร้างวินัยให้คนในชาติ ถือเป็นปัญหาหลักที่บิดเบือนมาตั้งแต่การศึกษาที่สอนแต่เรื่องเสรีภาพ หรืออะไรที่ไร้ขีดจำกัด แต่ไม่เคยพูดถึงหน้าที่ ซึ่งไม่ได้

ถ้ารัฐบาลทำตัวดีประชาชนก็ต้องร่วมมือ ถ้ารัฐบาลไม่ดีก็ว่ากันใหม่ ผมกำลังสร้างระบบธรรมาภิบาลใหม่ให้เกิดกับทุกคนให้ได้

 วันนี้ต้องปลูกฝังและช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองสะอาดในทุกที่ และต้องมีความสะอาดในใจ ผมพยายามทำใจให้สะอาดทุกวัน แต่มันมีขยะเข้ามาทุกวันเหมือนกัน ต้องหงุดหงิดโมโหทุกวันตอนอ่านหนังสือพิมพ์ แต่ผมจะทำเท่าที่ทำได้ เพราะรับปากไว้แล้ว"

โดย บิ๊กตู่ ต้องการจะสื่อสารกับประชาชน และยืนยันจะพยายามพูดให้น้อยลง แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่ออกมาพูดในทุกคืนวันศุกร์ ก็เพื่อให้เกิดมุมมองวิสัยทัศน์เพื่อพัฒนาในวันข้างหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าประชาชนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ออกมาพูด เพราะรู้สึกว่าโดนขัดจังหวะขณะกำลังดูละครเรื่องโปรด ทำให้เสียอรรถรสในการรับชม เเละต้องรอเกือบเป็นชั่วโมงถึงจะได้ดูละครต่อ

ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนวันเวลาออกอากาศหรือปรับเวลาการพูดของพล.อ.ประยุทธ์ให้น้อยลง

ซึ่งเรื่องนี้ให้สร้างความอึดอัดใจเป็นอย่างมากหลังถูกละครสุดฮ็อตของปีแย่งซีน