กรณีคดีสุดสลด นายไพศาล ยศขุน อายุ 40 ปี หนุ่มอาชีพประมงใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้ก่อเหตุใช้เชือกฆ่ารัดคอ และบีบคอลูกตัวเองตายสยอง 3 ศพ และผูกคอตายตาม ภายในห้องนอนบ้านเช่าเลขที่ 118/2 ตรงข้ามสำนักงานเทศบาล ต.สิชล หมู่ 5 เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนชาวบ้านมาพบศพรุ่งเช้าของวันถัดมา โดยสาเหตุเกิดจากความเครียดที่ นางจุฑาทิพย์ ยศขุน ภรรยา หนีออกจากบ้านไป 2 วัน แล้วยังทิ้งหนี้สินไว้จำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนเกิดโศกนาฎกรรม นายไพศาลยังเขียนข้อความโพสต์บนเฟซบุ๊กตัวเอง พร้อมใส่รูปถ่ายของลูกสาวคนเล็กระบุว่า "บอกแม่กันบายแล้วไม่ต้องห่วง" และ "สตางค์บ่ายบายแม่เป็นครั้งสุดท้ายรักแม่น่ะ" ตามข่าวที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
แม่-เมียแย่งรับ 4 ศพ ฆ่ายกครัว สลดตั้งโลงแค่ 2 ยัดร่างรวมกัน
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้มีการนำศพของ นายไพศาล และลูกๆ รวม 4 ศพ ส่งให้แผนกนิติเวช รพ.สุราษฎร์ธานี ทำการชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของลูกๆ ทั้งสามคน โดยลูกสาวคนโตถูกรัดคอ ส่วนอีก 2 คน ถูกบีบคอจนตาย ส่วนพ่อผูกคอตายเอง จากนั้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ได้มีการนำศพกลับมายัง สภ.สิชล เพื่อรอญาติมารับศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป ต่อมาได้มี นางประเสริฐ ยศขุน อายุ 65 ปี บ้านอยู่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแม่ของ นายไพศาล ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงศ์ ผกก.สภ.สิชล และนายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอสิชล เพื่อติดต่อขอรับศพ นายไพศาล และหลานๆ รวม 4 ศพ นำไปจัดการบำเพ็ญกุศลศพบ้านเกิด ที่วัดสระแก้ว หมู่ 1 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง ตามคำสั่งเสียของ นายไพศาล ที่โทรไปสั่งลาก่อนตาย โดยปรากฏว่าในขณะนั้น นางจุฑาทิพย์ ภรรยาของนายไพศาลที่หนีออกจากบ้าน ได้ย้อนกลับมาติดต่อขอรับศพ นายไพศาล และลูกๆ ไปจัดงานศพเอง แต่ปรากฏว่า นางประเสริฐ และญาติๆ ไม่ยอมให้ นางจุฑาทิพย์ นำศพลูกชายและหลานทั้ง 4 ศพไป โดยอ้างว่า นางจุฑาทิพย์เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุสลดตายหมู่ 4 ศพดังกล่าว ซึ่งทาง นายพิทักษ์ และ พ.ต.อ.โชคดี จึงตัดสินใจมอบศพทั้ง 4 ให้กับ นางประเสริฐผู้เป็นแม่นำศพไปจัดการตามประเพณี