เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ ได้อนุมัติให้ออกรางวัล 3 ตัวหน้า จำนวน 2 รางวัล ที่สามารถเริ่มในงวดวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยลดรางวัล 3 ตัวท้ายเหลือ 2 รางวัล ซึ่งใช้อัตราเงินรางวัลเท่ากับการออกรางวัล 3 ตัวท้ายเดิม โดยจะไม่กระทบกับสัดส่วนเงินรางวัลที่ 60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานสลากฯ จัดพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลทดแทนการพิมพ์สลากการกุศล 22 ล้านฉบับ ที่จะหมดอายุก่อนงวดวันที่ 1 ก.ย.นี้ เนื่องจากยังไม่มีมติจากครม.ในการพิมพ์สลากการกุศล โดยการพิมพ์ดังกล่าว คณะกรรมการต้องการนำสลากฯ เข้ามาทดแทนให้มีสลากฯ ต่องวดครบ 74 ล้านฉบับ ซึ่งจะช่วยไม่ให้เกิดผล กระทบต่อการซื้อขายสลากฯ ของผู้ค้าและ ผู้ซื้อสลากฯ ในแต่ละงวด
พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
เปิดเผยภายหลังการร่วมลงนามระหว่างสำนักงานสลากฯ กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดให้จำหน่ายสลากฯ ในสถานีบริการปั๊มน้ำมัน ปตท. 400 แห่ง จากทั้งหมด 1,400 แห่งทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายการดูแลราคาสลากฯ ที่ช่วยผู้ค้ามีช่องทางการจำหน่ายสลากฯ มากขึ้น และสามารถควบคุมราคาให้อยู่ที่ใบละ 80 บาท
พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ที่ผ่านมายืนยันว่า ผู้ค้าสลากฯ ให้ความร่วมมือในการจำหน่ายสลาก 70 เปอร์เซ็นต์ โดยมีราคาจำหน่ายคู่ละ 80 บาท
ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจากรายงานของชุดเฉพาะกิจได้ลงพื้นที่กรุงเทพ-ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่และภูเก็ต พบว่าจำนวนผู้ค้ารายย่อยที่จำหน่ายสลากฯ เกินราคามีเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนผู้ค้าที่ได้รับโควตา 30,000 ราย โดย ผู้ค้าสลากฯ บางรายที่ขายส่งในราคาสูงฉบับละ 78-79 บาท ถือว่าสูงเกินไป จึงเรียกมาขอความร่วมมือแล้ว ส่วน 3 รายใหญ่ที่ตรวจพบนั้น ส่งรายชื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบได้ด้วยเช่นกัน
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ข้อมูลผู้ค้าสลากฯ รายใหญ่ 3 ราย พบมีการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาจริง
โดยกรมสรรพากรจะตรวจสอบบัญชีรายได้ย้อนหลัง เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของรายได้ ก่อนจะเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาตรวจสอบแต่ละรายนานกว่า 2-3 เดือน เนื่องจากมีขั้นตอนรายละเอียดมาก และหากถึงเกณฑ์เสียภาษี จะต้องถูกตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปี และมีโทษปรับ 2 เท่าของเงินที่ต้องเสีย และหากกรณียื่นเสียภาษี จะต้องถูกตรวจสอบย้อนหลัง 5 ปี มีโทษปรับ 1 เท่า รวมทั้งยังพิจารณาเก็บภาษีจากทิปของผู้ค้ารายย่อย เนื่องจากนับเป็นรายได้ แต่ยืนยันไม่เอาเปรียบผู้ค้า เพราะมองว่าส่วนใหญ่ผู้ค้ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
