จำคุก ผู้ปกครอง ไพบูลย์ เอาจริง! ชงใช้อำนาจม.44 ปราบเด็กแว้น

จำคุก ผู้ปกครอง ไพบูลย์ เอาจริง! ชงใช้อำนาจม.44 ปราบเด็กแว้น

เมื่อวันที่ 15  มิ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม

 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้แทน 40 หน่วยงานเพื่อแก้ปัญหาเยาวชนแข่งรถในทางสาธารณะโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นและการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เข้าร่วมประชุมด้วยตนเองกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)  สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ฯลฯ

พล.อ.ไพบูลย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า


 ที่ประชุมได้ข้อสรุปการแก้ปัญหาเด็กแว้นว่าจะเอาผิดกลุ่มผู้ปกครองอย่างจริงจัง ซึ่งผู้ปกครองที่มีส่วนรู้เห็นกับการ กระทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างหนัก  หลังพบว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงโทษผู้ปกครองทั้งที่มีกฎหมายบังคับใช้ แต่เจ้าหน้าที่อ้างความเห็นอกเห็นใจ แต่จากนี้หากพิสูจน์ได้ว่ามีส่วนร่วมกับการกระทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมาย คือจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หากกฎหมายยังไม่เข้มงวดจะแก้กฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น  สำหรับผู้ปกครองที่ไม่รู้เห็น หรือไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดต้องเข้าร่วมกระบวนการแก้ไขพฤติกรรมของเด็กหากพบทำผิดซ้ำผู้ปกครองต้องรับโทษ ส่วนร้านจำหน่วยรถและอุปกรณ์ตกแต่ง มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมดูแลหากพบว่าส่ง เสริมให้เกิดการแข่งรถจะถูกยึดใบอนุญาต ขณะที่ร้านแต่งรถรายย่อยสั่งการให้กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบพร้อมประเมินภาษี และสอดส่องว่าสนับสนุนให้มีการแข่งรถหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนสนับสนุนต้องหยุดกิจการทันที

พล.อ.ไพบูลย์  กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมยังเสนอความเป็นไปได้ในการใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน  

 เบื้องต้นหารือเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อควบคุมการแข่งรถตั้งแต่ขั้นตอนการตระเตรียม การนัดชุมนุมเพื่อเตรียมการแข่งโดยศึกษาจากข้อบกพร่องของ "ราชพฤกษ์โมเดล" ซึ่งไอซีทีและตำรวจมีหน่วยเฝ้าระวังการนัดแนะการรวมตัวของเด็กแว้น เช่น การนัดผ่านกลุ่มไลน์ ดังนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบของตัวเองหากจำเป็นต้องแก้กฎหมายที่เป็นพ.ร.บ.จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 เดือน  จึงอาจเสนอนายกรัฐมนตรี ให้ใช้มาตรา 44  นอกจากนี้ ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้แต่ละโรงเรียนชี้แจงทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง ว่าการปล่อยให้ออกไปแข่งรถยามวิกาลเป็นความผิดที่ผู้ปกครองต้องร่วมรับโทษ  อย่างไรก็ตาม เด็กแว้นส่วนใหญ่ร้อยละ 60-70 ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงมอบให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทำทะเบียนเพื่อตรวจสอบโดยเฉพาะรายที่กระทำผิดซ้ำ พร้อมขอให้กรุงเทพมหานครจัดพื้นที่ลานออกกำลังกาย หรือสร้างกิจกรรมเชิงบวกจูงใจไม่ให้ไปแข่งรถช่วงยามวิกาล

สำหรับการแก้ไขปัญหาจำหน่ายแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พล.อ.ไพบูลย์  กล่าวว่า  ทุกหน่วยเห็นตรงกันว่า

ปัญหาเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายย่อหย่อนบกพร่องทุกหน่วยงาน  ทั้งที่กฎหมายเข้มงวดอยู่แล้วจึงเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้จริงจัง  ในส่วนเจ้าหน้าที่ที่ยังปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่จะถือว่ามีโทษเช่นเดียวกับผู้ปกครองที่ปล่อยให้ลูกหลานออกมาแข่งรถยามวิกาลเช่นกันอย่างไรก็ตาม จะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาพิจารณาว่ายังมีจุดบกพร่องในส่วนใด เช่นการขออนุญาตเปิดหอพัก การขายสุราให้เด็ก การเปิดสถานบริการเกินเวลาโดยที่ประชุมผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการเสนอให้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีห้ามไม่ให้มีสถานบริการและสถานบันเทิงในระยะ 300 เมตรรอบสถานศึกษา เบื้องต้นมีข้อเสนอให้สรรพสามิตถอนใบอนุญาตกับสถานบริการที่เปิดเกินเวลา และจำหน่ายสุราให้เด็กโดยให้ยึดใบอนุญาตเป็นเวลา 5 ปี และห้ามขอใบอนุญาตอีก.

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์