เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่เรื่องราวของนักท่องเที่ยวชาวไทยรายหนึ่งที่ก่อเหตุลักขโมยด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้แก่คนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยว
โดยระบุว่า เมื่อหลายเดือนก่อน สถานทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมนักท่องเที่ยวไทยที่ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ที่สวนสนุกชื่อดังของญี่ปุ่น โดยเธอเล่าว่าความคิดเพียงชั่ววูบ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็น จึงแอบหยิบของราคาไม่กี่พันบาทออกมาโดยไม่ได้จ่ายเงิน แต่เมื่อเดินออกจากร้านพนักงานของร้านเดินตามมาถามถึงของที่เธอขโมย จึงได้แต่พยักหน้ายอมรับและส่งมอบสิ่งของนั้นคืน โดยในใจคิดว่าแค่คืนของและอาจจะแค่เสียค่าปรับซึ่งเธอยินดีจ่ายเพราะการกระทำเมื่อสักครู่ แต่ในที่สุดเธอก็ถูกเชิญไปที่โรงพักและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้เธอตระหนักได้ว่าเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่างโดยเฉพาะความถูกต้อง แถมยังอับอายไม่กล้าบอกใคร
หลังจากถูกจับ เธอต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 45 วัน เพื่อรออัยการยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล และหากศาลรับฟ้องก็ต้องถูกคุมขังเพื่อรอวันนัดไต่สวนคดี และตอนนี้ผ่านมาถึง 2 เดือนก็ยังไม่ทราบวันชัดเจนที่จะกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากต้องรอการพิจารณาคดีจากศาลที่ญี่ปุ่นเพื่อที่จะตัดสินบทลงโทษของเธอ เธอจึงยินยอมให้สถานฑูตฯเล่าเรื่องของเธอให้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจและเป็นเครื่องเตือนใจในการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดกฎหมายของญี่ปุ่น เพราะผลที่ตามมาอาจจะหนักจนคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้
ทั้งนี้ สถานทูตฯไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงระบบยุติธรรมหรือกฎหมายของญี่ปุ่นได้ กล่าวคือ คนไทยทุกคนเมื่อเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หากกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น