จีนแซงสหรัฐปล่อยก๊าซโลกร้อนมากสุด

จีนแซงสหรัฐปล่อยก๊าซโลกร้อนมากสุด



ลอนดอน - จีนแซงหน้าสหรัฐ ขึ้นเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว

เร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดไว้หลายปี โดยปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 6,200 ล้านตัน

สำนักงานประเมินสภาพแวดล้อมเนเธอร์แลนด์เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19 มิ.ย.) ว่า จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลกเมื่อปี 2549 ผลจากความต้องการถ่านหินเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าและการผลิตปูนซีเมนต์ที่พุ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมคาดว่า

กว่าจีนจะแซงหน้าสหรัฐได้ คงต้องใช้เวลาหลายปี ขณะที่รายงานบางชิ้นคาดว่าอาจเป็นปีหน้าที่จีนจะปล่อยก๊าซมากกว่าสหรัฐ

สำนักงานประเมินสภาพแวดล้อมเนเธอร์แลนด์

ระบุว่าจีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 6,200 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว เทียบกับ 5,800 ล้านตันจากสหรัฐ และ 600 ล้านตันจากอังกฤษ

จีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าสหรัฐ 8%

ขณะที่การปล่อยก๊าซของสหรัฐลดลง 1.4% เมื่อปีที่แล้ว ผลจากสภาพเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว

ส่วนปี 2548 การปล่อยก๊าซของจีนต่ำกว่าสหรัฐ 2%

นอกจากนั้น เมื่อคิดเฉลี่ยต่อหัว อัตราการปล่อยก๊าซของจีนยังค่อนข้างต่ำ หรือประมาณ 1 ใน 4 ของสหรัฐและครึ่งหนึ่งของอังกฤษ



ตัวเลขใหม่นี้คำนวนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการผลิตปูนซีเมนต์เท่านั้น ไม่รวมแหล่งอื่นที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เช่น การปล่อยก๊าซมีเทนจากภาคเกษตร และการปล่อยก๊าซไนตรัส ออกไซด์จากกระบวนการทางอุตสาหกรรม ทั้งยังไม่รวมการปล่อยก๊าซจากอุตสาหกรรมการบิน เดินเรือ รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่า และการเผาไหม้ถ่านหินใต้ดิน

ดร.จอส โอลิเวียร์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโส

แห่งสำนักงานประเมินสภาพแวดล้อมเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่าเป็นการยากที่จะหาตัวเลขการประเมินที่น่าเชื่อถือได้เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเหล่านี้ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา แต่การนำตัวเลขการปล่อยก๊าซเหล่านี้รวมเข้าไปด้วย ก็ไม่น่าจะทำให้จีนหลุดจากอันดับแรกไปได้

การเปิดเผยรายงานชิ้นนี้มีขึ้นในช่วงที่หลายฝ่าย

หาทางจัดทำสนธิสัญญาภูมิอากาศ เพื่อใช้ต่อจากพิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุในปี 2555 ที่ผ่านมาสหรัฐไม่ยอมให้สัตยาบันพิธีสารเกียวโต ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีการกำหนดให้จีนลดการปล่อยก๊าซ นายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์แห่งอังกฤษ เชื่อว่าวิธีดีที่สุดคือพัฒนาตลาดระดับประเทศขึ้นมา เพื่อจำกัดและซื้อขายคาร์บอน

เมื่อต้นเดือนนี้ จีนได้เผยแผนภูมิอากาศ

ระดับประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากเตรียมการมา 2 ปี แต่ไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายโดยตรงสำหรับการลดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพียงตั้งเป้าลดการบริโภคพลังงานต่อหน่วยจีดีพีลง 20% ภายในปี 2553 และเพิ่มส่วนแบ่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้เป็น 10% รวมถึงปลูกป่าให้ปกคลุมพื้นที่ 20% ของประเทศ

จีนย้ำว่าเทคโนโลยีและต้นทุนเป็นอุปสรรคใหญ่

ในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่าสิ่งที่จีนต้องการคือความร่วมมือระหว่างประเทศให้จีนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ด้านภาคอุตสาหกรรมของจีนมีท่าทีลังเลในการใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ซึ่งยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นในประเทศพัฒนาแล้ว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์