ฝนถล่มกรุงจมมิด รถติดวินาศ-ระบายน้ำไม่ทัน กทม.อ้างสาเหตุขยะล้นคลอง

 เกิดฝนตกหนักในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 01.45 น. ถึงเช้าวันที่ 8 มิถุนายน ส่งผลให้กทม.เกิดความอลหม่านไปในหลายพื้นที่

โดยศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. รายงานว่า ฝนได้กระหน่ำหนักในพื้นที่ เขตบางขุนเทียน จอมทอง ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ บางบอน บางแค ภาษีเจริญ คลองสาน ธนบุรี บางคอแหลม บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ตลิ่งชัน บางพลัด ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ ปทุมวัน บางรัก สาทร บางนา พระโขนง สะพานสูง ปริมาณฝนสูงสุดที่จุดวัดเบญจสิริ เขตคลองเตย 63.0 มิลลิเมตร (มม.) การจราจรติดขัดทุกพื้นที่

โดยกทม.ได้การเร่งระบายน้ำคือ 1.แยกคลองตัน หน้าสำนักงานการไฟฟ้านครหลวง

น้ำท่วมยาว 100 ม. 2 ช่องจราจร ทั้ง 2 ฝั่ง , 2.หน้าสนามกีฬาธูปเตมีย์ ยาว 80 ม. 2 ช่องจราจร ,3.ถ.สุขุมวิท หน้า รร.โฟร์วิน ยาว 200 ม. เต็มผิวจราจร ,4.หน้าตึกแกรมมี่ ถ.อโศกมนตรี เขตวัฒนา 2 ฝั่ง สูง 10-15 ซม. ,5.แยกพัฒนาการถึงอุโมงค์กลับรถ ถ.พัฒนาการ สูง 5-10 ซม. ยาว 500 ม.,6..ถ.อโศกมนตรี หน้าตึกชิโนไท เชิงสะพาน สูง 5-10 ซม. ยาว 400 ม. เต็มผิวจราจร,7..ถ.สุขุมวิท ช่วงสุขุมวิท 30 - แยกอโศก สูง 10-15 ซม. เต็มผิวจราจร

9.ซ.สุทธิพร ถ.ประชาสงเคราะห์ สูง 10-15 ซม. เต็มผิวจราจร ,9.ถ.พระราม 3 ช่วง ณ ระนอง - ทางรถไฟสายเก่า ถ.เชื้อเพลิง สูง 5-10 ซม. ยาว 500 2 ช่องจราจร ,10.ถ.พระราม 4 ช่วงแยกสุนทรโกษา - กรมศุลกากร สูง 5-10 ซม. ยาว 700 ม. 2 ช่องจราจร ,11.ถ.พระราม 6 ตรงข้าง รพ.รามา - แยกตึกชัย สูง 5-10 ซม. ยาว 300 ม. 2 ช่องจราจร ,12.ถ.เจริญนคร ซอยเจริญนคร 34 - 46 สูง 5-10 ซม. ยาว 600 ม. 2 ช่องจราจร 13.ถ.รัชดาภิเษก บริเวณสถานฑูตจีน สูง 5-10 ซม. ยาว 600 ม. เต็มผิวจราจร ,14..ถ.เพชรบุรี ซ.เอกมัย เป็นช่วงๆ สูง 5-10 ซม. เต็มผิวจราจร ,15หน้าวังสวนผักกาด ทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้ยังมีจุดท่วมเล็กท่วมน้อยอีกจำนวนมาก กระทั่งเวลา 07.00 น.ปริมาณฝนในกทม.ลดลงวัด ปริมาณฝนสูงสุด สถานีสูบน้ำพระราม 4 เขตคลองเตย 140.0 มม.

นอกจากนี้สถานีวิทยุแห่งต่างๆ ยังได้รายงานสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักทั่วกทม.และปริมณฑล

 รวมทั้งมีการขอความช่วยเหลือจากประชาชนเนื่องจากต้องประสบกับน้ำท่วมกลางทางจนรถดับ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สมุทรปรากการ บริเวณรอยต่อกับ กทม. ตั้งแต่หมู่บ้านนภาลัย ซอยแบริ่ง มีน้ำท่วมสูง กว่า 40 ซม. รวมถึงถนนปู่เจ้าสมิงพรายด้วยซึ่งยังมีเสาฟ้าต้นไม้ใหญ่โค่นล้มจำนวนมาก ขณะเดียวกันบริเวณถนนบางนา-ตราด ตั้งแต่หน้า ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ถึงหน้าหมู่บ้านไพโรจน์ ก็มีน้ำท่วมขัง รวมถึง ภายในซอย อสมท. ถนนพระราม 9 น้ำท่วมสูง รถยนต์ไม่สามารถเข้า-ออกซอยดังกล่าวได้

ต่อมาเวลา 10.00 น.ที่สถานีสูบน้ำคลองเตย นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม.เดินทางมาบัญชาการระบายน้ำที่ยังท่วมกทม.

นายสัญญา ยอมรับว่า กทม. ปริมาณฝนที่ตกลงจำนวนมาก ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน ทั้ง ยังมีอุปสรรคสำคัญคือเรื่องขยะ กีดขวางทางน้ำไหลในระบบระบายน้ำต่างๆ จำนวนมาก ทั้งในท่อระบายน้ำ คลอง ลำราง สถานีสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำ เจ้าหน้าที่สามารถจัดเก็บที่หน้าสถานีสูบน้ำต่างๆ ได้กว่าวันละ 10 ตัน

โดยเฉพาะขยะขนาดใหญ่ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ โอ่ง ขอนไม้ ต้นไม้ ที่ไม่สามารถเข้าระบบจัดเก็บอัตโนมัติหน้าสถานีสูบน้ำได้ ถือเป็นปัญหาที่หนักใจมาก กทม.ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จัดเก็บตามสถานีสูบน้ำต่างๆ 300-400 คน และขยะบางส่วนยังเข้าไปติดในเครื่องสูบน้ำ สร้างความเสียหายจนต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อทำการซ่อมแซม และยังเป็นการเสียเวลา ทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลง

“อย่างที่อุโมงค์ยักษ์พระราม 9 มีเครื่องสูบน้ำ 4 ตัว แต่มีน้ำเข้าระบบจนสามารถเดินเครื่องได้ 3 ตัวเท่านั้น เนื่องจากมีขยะติดอยู่หน้าสถานีจนน้ำไม่เข้าระบบ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงในพื้นที่สาธารณะ”ปลัดกรุงเทพมหานครระบุ

และย้ำว่า มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้เดินทางไปยังเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนร่วมประชุมนานาชาติ Policing Globlo Cities ระหว่างวันที่ 6-12 มิถุนายน ในหัวข้อการป้องกันอุทกภัย และการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ได้ห่วงสถานการณ์โทรศัพท์มาสอบถามความคืบน้ำในการระบายน้ำเป็นระยะๆ

ในขณะที่ มรว.สุขุมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขออภัยประชาชนชาวกทม.ต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น และประกาศว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันอังคารนี้

ด้านสถานการพายุฝนตกหนัก ในต่างจังหวัด อาทิ ที่อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พายุพัดถล่มต้นไม้ล้มหักโค่นล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ริมถนนนับสิบต้น ซึ่งมีรถยนต์กระบะติดอยู่บางคันถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจนกระจกรถแตกกระจายได้รับความเสียหาย เกิดไฟฟ้าดับทั่วทั้งเมืองจอมบึง


ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้วิเคราะห์ว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตลอดสัปดาห์

ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบตลอดสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในส่วนมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตามบริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนเกือบทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.