เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน" ว่า ขณะนื้ชุดคลี่คลายคดีได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับ นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือเกย์นที อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1087/2558 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2558 และ นายธนา วงศ์ขำ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1117/2558 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2558 ในข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน สโตร์ จำกัด โดยทั้งสองเป็นผู้ต้องหารายที่ 39 และ 40 ตามลำดับ หลังพบข้อมูลว่า นายนที ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม ในประเด็นเกี่ยวกับเรื่องบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นสมาชิกเครือข่ายธุรกิจยูฟันระดับบน ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายที่ได้รับการนับถือจากเหล่าสมาชิกเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผู้มีคุณวุฒิด้านการเงินการบัญชี และเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ธุรกิจยูฟันมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังปรากฏคลิปที่มีลีลาบรรยายดุเด็ดเผ็ดมัน และมีการใช้ถ้อยคำท้าทายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ฟัง เพื่อให้มาร่วมลงทุนกับธุรกิจยูฟันด้วย
นอกจากนั้น นายนที ยังเป็นหนึ่งในแกนนำปลุกระดมสมาชิกเดินขบวนขอความเป็นธรรมให้กับเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ฟอกเงินยูฟัน ที่เซ็นทรัลเวิล์ด และ สตช. ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย ส่วน นายธนา มีหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิดเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดในระดับแม่ข่ายและแม่ทีมบรรยาย ปรากฏตามโครงสร้างแผนผังการดำเนินธุรกิจบริษัท ยูฟัน และทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังตรวจสอบพบว่า นายธนา ได้ทำธุรกรรมทางการเงินซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัท ยูฟัน โสตร์ จำกัด หลายรายการ อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย ได้จับกุมตัว นายธนา เอาไว้ได้ ขณะยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวเพื่อขอออกนอกประเทศไปยัง สปป.ลาว
โดยนายธนา รับว่าเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ทางบ้านมีปัญหาทางการเงิน จึงได้พักการเรียนไว้ก่อน แล้วพยายามหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว กระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อนทราบว่ามีธุรกิจยูฟัน เป็นธุรกิจที่น่าสนใจ มีการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ มีคนดังทั้งข้าราชการ นักธุรกิจร่วมกิจการหลายคน จึงสมัครเป็นสมาชิก โดยลงทุนไป 35,000 บาท ระหว่างที่เป็นสมาชิกด้วยความที่เป็นคนพูดจาเก่ง คล่องแคล่ว ทำให้ผู้ใหญ่ในบริษัทเห็นความสามารถ เลยชักชวนให้ตนหาเครือข่าย และตนได้แนะนำสมาชิกได้ประมาณ 10 คน ซึ่งหากบริษัทจัดกิจกรรมก็ให้ตนขึ้นพูดบนเวทีหลายครั้งในฐานะคนรุ่นใหม่ก็ทำงานนี้ได้ ช่วงที่เป็นสมาชิกอยู่นั้นมีรายได้ประมาณหลักแสนบาท และมีเงินผ่านบัญชีประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เงินของตนแต่เป็นเงินหมุนเวียนของสมาชิกในเครือข่าย โดยใช้บัญชีชื่อตนเป็นตัวกลาง แต่เมื่อยูฟันเริ่มมีปัญหาตำรวจเริ่มตรวจสอบ ตนจึงได้ขายหุ้นหรือพอร์ตให้กับคนอื่นทางเฟซบุ๊กในราคาพอร์ตละหมื่นบาท และไม่ได้ชักชวนคนอื่นให้ร่วมสมัครอีกเลย สำหรับการเดินทางเพื่อไปเที่ยว สปป.ลาว ครั้งนี้ เป็นการไปท่องเที่ยว ไม่ได้จะหลบหนีแต่อย่างใด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
