พิธีกรดังทีวีมะกัน จัดหนัก! วิพากษ์กระเเสลัทธินาซีในไทย บอกขาดความรู้ประวัติศาสตร์

ผู้ดำเนินรายการทีวีโชว์ชื่อดังของสหรัฐฯ เล่นประเด็นความนิยมลัทธินาซีในไทย ชี้การศึกษาไทยทำให้บุคคลที่เลวร้ายในประวัติศาสตร์ กลายเป็นที่นิยมและเป็นเรื่องปกติ

นายจอห์น โอลิเวอร์ ผู้ดำเนินรายการ Last Week Tonight ทางช่อง HBO ได้เล่าในช่วงหนึ่งของรายการซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับปรากฎการณ์ของกระแสความนิยมลัทธินาซีในสังคมไทย ที่ตราสวัสดิกะและภาพ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แพร่หลายผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในรูปแบบคลิปภาพยนตร์สั้นค่านิยม 12 ประการที่มีเด็กคนหนึ่งวาดภาพ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือในชุดขบวนพาเหรดงานกีฬาสีของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มิวสิควิดีโอเพลงของวงสเลอที่สมาชิกในวงแต่งตัวชุดทหารนาซี หรือแม้แต่ร้านไก่ทอดแห่งหนึ่งที่เอาหัวของฮิตเลอร์มาใส่

นายโอลิเวอร์กล่าวด้วยความตกตะลึงว่า เหตุใดสังคมไทยถึงมองว่ากระแสลัทธินาซีและฮิตเลอร์กลายเป็นเรื่องปกติ และระบบการศึกษาไทยไม่ได้ให้ความรู้หรือพูดถึงประวัติศาสตร์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยกองทัพนาซีว่าเลวร้ายแค่ไหน

นายโอลิเวอร์ยังกล่าวอีกว่าปัจจุบันภาพของฮิตเลอร์หรือสิ่งสื่อแทนลัทธินาซีควรปรากฎได้เพียงแค่ภาพในตำราวิชาประวัติศาสตร์และบนหน้าสุนัขที่มีแต้มจุดคล้ายหนวดจิ๋วของฮิตเลอร์เท่านั้น

(นายจอห์น โอลิเวอร์ ขอให้รอสักครู่ ขณะที่คนไทยกำลังกูเกิ้ลค้นหาคำว่า "ฮิตเลอร์")

ทั้งนี้ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ความนิยมลัทธินาซีในสังคมไทย เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยล่าสุด เกิดเหตุพิพาทในกรณีที่ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ได้โพสต์เฟซบุ๊กลักษณะเชิดชูอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และ วิพากษ์ประวัติศาสตร์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวว่าเป็นการใส่ร้ายจากพวกไซออนิสต์ กลุ่มยิวหัวรุนแรง ที่ทำให้ฮิตเลอร์ถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย ซึ่งต่อมาสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คำกล่าวของ นายซิมอน โรเด็ค เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ถึงกรณีดังกล่าวว่า

"เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ยังมีคนที่น่าจะได้รับการอบรมที่ดี คนที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ คนที่ได้รับการศึกษาสูง และมีช่องทางที่จะค้นคว้าหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญา แต่กลับไม่มีวิจารณญาณที่จะแยกแยะได้ว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือโฆษณาชวนเชื่อ

"ทั้งยังไม่ค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรพยานวัตถุและพยานบุคคลการที่จะเขียนเรื่องในประวัติศาสตร์สำคัญที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบต่อคนหลายเชื้อชาติจำนวนมากอย่างเรื่องนี้ให้ผิดไปจากข้อเท็จจริงด้วยอัตวิสัยส่วนตัวแทนที่จะแสดงว่าเป็นผู้รู้มากกว่าคนอื่น

ในทางกลับกันกลับบ่งชี้ว่าต้องการนำความเคราะห์ร้ายของชนชาติหนึ่งมาบิดเบือนเพียงเพื่อต้องการจะผลักดันให้ตนเองได้รับความสนใจมากขึ้นเท่านั้นข้อความนี้บ่งชัดถึงความเขลาในเรื่องการเหยียดเชื้อชาติของบุคคลเพียงคนเดียวที่นำความอับอายมาสู่ประเทศนี้เป็นอย่างยิ่ง"